เว็บเบ็นทูแอท http://ben2at.siam2web.com/

หมวดงานป้องกันและบริหารจัดการสาธารณะภัย

(ตัวอย่าง)

 หน่วยลงทุน  โครงการ ทุน  กำไร ประโยชน์
001

 เขื่อนไม้บีเวอร์

 15  500 ป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง/ป้องกันคลื่นสึนามิ/ป้องกันลมพายุ/ป้องกันการสูญพันธุ์สัตว์น้ำและสัตว์อากาศ ตลอดจนสัตว์บก เช่นลิง  งู กระรอก กระแต นาก/เป็นแหล่งอาหารและพลังงานท้องถิ่น /ลดภาวะโลกร้อน/ ป้องกันการเผาขยะไม้ของการไฟฟ้า เทศบาล และชุมชน เกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม/ป้องกันคลื่นยักษ์สึนามิ/สร้างแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน/สร้างแผ่นดินให้งอกออกไปสู่ทะเล/นำเอาขยะไม้ กับดิน เปลือกข้าว เปลือกหอยมาทำเป็นวัสดุป้องกันคลื่นใต้น้ำ /ทำให้เกิดแนวปราการป้องกันชายฝั่งจากพวกหอยที่มาเกาะเขื่อน/เกิดแนวกำแพงป้องกันคลื่นจากสาหร่าย หญ้าทะเล และผักบุ้งทะเล เพื่อป้องกันแรงคลื่นทะเล
002 โรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ จากน้ำทะเล 20 685 ป้องกันน้ำทะเลท่วมพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยของประชาชน ตลอดจนป้องกันน้ำท่วมพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และการบริหาร /ได้พลังงานไฟฟ้าจากไอน้ำที่ได้จากน้ำทะเลและน้ำจากคูคลอง แม่น้ำ หนอง บึง ต่างๆ
003  สแลนด์บังลม   5  100  ป้องกันแรงลมพายุที่จะมาทำให้ต้นไม้ที่ปลูกตามชายฝั่งทะเลหรือแม่น้ำหักล้ม ลดความสูญเสียลดไป คือทำให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยต้านทานแรงลมไม่ให้ทำลายบ้านเรือน โดยมีวัสดุที่ช่วยเปลื่ยนความเย็นชื้นของลมให้กลายเป็นน้ำรดลงที่ต้นไม้ เช่นถ่านไม้ หรือพวกดิน วัสดุจำพวกคาร์บอน เซรามิค เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลต้นไม้ โดยเฉพาะเรื่องน้ำจืด ลมจะเปลี่ยนเป็นน้ำแล้วกลายเป็นน้ำรดลงต้นไม้ ที่ปลูกหลังสแลนด์อีกทีแต่ต้องติดตั้งสแลนด์ให้สูงและมีความกว้างมากๆ
 004 ดินลูกรังเทียม   20  500  ลดการทำลายภูเขา เพื่อนำมาทำเป็นดินลูกรัง เพราะใช้ขยะไม้ เปลือกหอย เปลือกไข่ แกลบ มูลสัตว์ ดินก้นคลอง น้ำยางพืช ยางพืช น้ำมันสน หยุดการเผาขยะไม้ และอาจหยุดการฆ่าสัตว์เพื่อการบริโภค เมื่อทำให้มูลสัตว์มีราคา เช่น กก.ละ20 บาท
 005 ชุมชนเครือข่ายความดีรักษาธรรมชาติ   15 560  ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าแต่ดั้งเดิม หรือพื้นที่ป่าแห่งใหม่ ที่ทางการประกาศให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวน  ได้เข้าไปตั้งชุมชนรักษ์ป่าล้อมรอบพื้นที่ป่า โดยกำหนดให้ผลตอบแทนเป็นคะแนนพีวี ที่แลกเป็นเงินและสวัสดิการได้ จากการช่วยทำให้มีจำนวนประชากรพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ แมลง ตัวหนอน จุลชีพ จุลินทรีย์ และแหล่งน้ำ เพิ่มมากขึ้น หรือมีปริมาณมากขึ้น เช่น มี ต้นสักขนาดความสูง 5 เมตรอายุ 1-5 ปีเพิ่มขึ้นมาอีก1,000 ต้นเท่ากับ 10 พีวี เท่ากับเงิน 10,000บาท สวัสดิการเป็นข้าวสารใหม่หอมมะลิ 20 ถัง /เดือน ตั๋วเดินทางเที่ยวในประเทศ 5,000 บาท  หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพิ่มมากขึ้น 5 คน ได้ 20 พีวี เท่ากับเงิน 20,000 บาท  รายได้จากร้านค้าสหกรณ์ชุมชนเพิ่มขึ้น 1000 บาท ประชาชนในชุมชนรอบพื้นที่ก็จะได้ส่วนแบ่งไปด้วย ครอบครัวละ 50 บาท แต่หาก ประชากรในป่าลดลง ประชาชนในพื้นที่รอบพื้นที่ป่าต้องรับผิดชอบ โดนตัดคะแนนครั้งละ 5 พีวี ทุกๆเดือน เมื่อทำเช่นนี้ ชาวบ้านรอบพื้นที่ก็จะช่วยกันรักษาธรรมชาติในป่าอย่างยั่งยืน
 006 ระบบกล้องวงจรปิดระบบสแกนรังสีเอ๊กซ์ และจับรังสีความร้อนในเขตชุมชน อาคาร สถานที่สาธารณะต่างๆ เพื่อป้องกันอาชญากรรม,การก่อวินาศกรรม การโจรกรรมและการฆาตรกรรมต่อเนื่องและระบบสแกนใต้ดิน ฝังลงบนผิวถนน เพื่อป้องกันอุบัติภัย การก่อการร้าย  โจรกรรม อาชญากรรม      เมื่อจะเกิดเหตุการณ์ร้ายเพียงแค่ผู้ก่อการร้ายเข้ามาในผิวถนน หรือพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ ภาพจากกล้อง และระบบสแกนใต้ดินจะรายงานผลแสดงภาพทางจอแอลซีดี ที่ตั้งโชว์ให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็น ตลอดจนจะไปปรากฎภาพบนจอโทรทัศน์ของเจ้าหน้าที่บนหอสังเกตุการณ์พื้นที่ชุมชน เหมือนกับหออากาศยาน และหอบังคับการในทางด่วน เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น ให้มีความเป็นศูนย์ ประชาชนและเจ้าหน้าที่สามารถร่วมกันช่วยสอดส่องดูแลได้เพราะเห็นภาพร่วมกัน ทำให้ผู้ก่อการไม่สามารถที่จะลงมือทำภารกิจได้
 007  เครื่องกำจัดเมฆฝน     หลักการคือ เมื่อเราสร้างเครื่องกำจัดเมฆฝนได้แล้ว ก็จะสามารถควบคุมให้ที่ใดมีเมฆที่จะก่อเกิดฝนตกได้ เพราะที่จริงเมฆก็คือแหล่งน้ำ ขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ซึ่งเปรียบเป็น ทะเลสาบ หนอง บึง ขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่กระจายทั่วประเทศและทั่วโลกตามแหล่งปริมาณความชื้น ปริมาณไอน้ำ และลมมรสุมที่พัดเข้ามา หย่อมความกดอากาศที่มีมากหรือน้อยในแต่ละพื้นที่ เมื่อไม่มีเมฆฝน ก็จะไม่มีฝนตก ก็จะมีปัญหาน้ำท่วม เพราะพายุฝน และไม่เกิดแผ่นดินถล่มพังทลายเพราะแรงน้ำฝน และแรงลม  เราจะสามารถมีเวลาืฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลาย อย่างน้อยใช้เวลา 3-6 เดือนในการปลูกป่าให้โตสูง 2-5 เมตรทัน แล้วทำแสลนบังลมลดแรงปะทะจากแรงลมฝนไปได้มาก แต่เราต้องทำท่อซึ่งสร้างจากไม้ โดยมีวัสดุเคลือนภายในที่เป็น เช่น ฟลอยอลูมิเนียม ,ถ่านกำมัน,ดิน ,โคลน,หรือใช้แผ่นเซรามิคดินเผาเคลือบชั้นในของท่อไม้ขนาดยักษ์และมีความสูงมากถึง 30เมตรและท่อซึ่งทำจากกระเบื่้้้องดินเผา ความสูง 20 เมตร แล้วท่อผ้าแบบท่อดูดน้ำระบายน้ำหรือท่อที่ใช้ฉีดน้ำดับเพลิง โดยให้มีความยาว 600-1,000 เมตร โดยติดตั้งพัดลมเป่าอากาศขึ้นไปให้ผ่านท่อผ้าจนท่ีอผ้าลอยตัวขึ้น จนเชือกว่าวเริ่มกระตุกดึงว่าวขนาดใหญ่ให้ลอยตัวขึ้นจากนั้นจึงเปิดพัดลมตัวใหญ่อีกตัวเพื่อให้ว่าวลอยตัวขึ้นสูง และเมื่อว่าวลอยตัวขึ้นสูงจนติดลมบน ก็จะปิดพัดลมเป่าอากาศที่เป่าท่อผ้าให้ขยายตัวในช่วงแรก โดยอาศัยแรงดึงของว่าวที่ลอยตัวติดลมบนแล้ว เป็นตัวช่วยนำท่อผ้าให้ขยายตัว  ซึ่งเราสามารถควบคุมระดับความสูงของท่อผ้าได้ด้วยว่าวที่ถูกควบคุมโดยเชือก ซึ่งเราสามารถกำกับให้เชือกว่าวสั้นยาวได้ดังใจ หรือควบคุมให้ไปในทิศทางใดก็ได้ เพราะเรามีว่าวสองตัว ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนในท่อดินเผาเราก็ติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ชั้นล่างสุดของท่อไม้ เพื่อดูดอากาศ หรือเมฆ ให้ไหลผ่านเข้ามาในท่อแล้วเปลี่ยนสถานะกลายเป็นน้ำสะอาดหรือน้ำสีดำที่มีประโยชน์ จากนั้นเราจึงนำน้ำที่ได้นี้ไปยังบ่อบำบัดที่มีพืชน้ำและพืชที่ชอบความชื้นปลูกโดยรอบ โดยเฉพาะต้นยูคาลิปตัส เพื่อให้เปลี่ยนน้ำบางส่วนไปอยู่ในรูปเซลลูโรส เป็นเนื้อไม้ โดยน้ำบางส่วน ก็จะถูกพืชน้ำจัดการให้กลายเป็นน้ำสะอาด เช่นต้นธูปฤาษี ต้นกก และพืชที่มีรากดูดความชื้น เช่น ต้นไทร ต้นยางอินเดีย ได้ดูดไอน้ำจากเมฆที่ถูกดูดเข้ามาในท่อให้ไปอยู่ในต้นไม้แทน หรือพืชตระกูลหัว ในดิน เช่น มัน ถั่ว และพืชอย่างต้นพริกไท ต้นกล้วยไม้ลิ้นจี่ เห็ด ซึ่งเป็นพืชที่ชอบความชื้นเช่นกัน โดยเมื่อทำท่อกำจัดเมฆฝนได้สำเร็จและนำไปติดตั้งตามจุดต่างๆที่จะมีเมฆฝน ก็จะช่วยควบคุมปริมาณเมฆฝนได้ตามต้องการ และยังนำประโยชน์ที่ได้ไปใช้พัฒนาในด้านอื่นๆ อย่างยั่งยืนได้ด้วย  และ เครืองกำจัดเมฆรุ่นที่สอง คือใช้ท่อดูดเมฆนำเมฆ ลงมาแล้วดูดไปลงในโพรงใต้ดินที่มีรากของต้นไม้มากมาย คือเราต้องขุดอุโมงค์ใต้ดิน ที่มีการปลูกต้นไม้ที่รากยาว และชอบความชื้น จนรากยาวลงมาในอุโมงค์ใต้ดิน ทีจะนำเมฆ ลงมาไว้ เมื่อเมฆลงมาในอุโมงค์ใต้ดิน ก็จะกลายเป็นน้ำ เหมือนหมอก และจะกลายเป็นปัจจัยดำรงชีพของรากพืชที่ชอบความชื้นต่อไป เช่นต้นยางอินเดีย ยางนา ต้นไทรย้อย ไทรผล ต้นถั่ว ต้นพริกไท ต้นมัน พืชตระกูลหัวทุกชนิด จะได้ใช้ประโยชน์จากไอเมฆที่อยู่ในอุโมงค์ใต้ดินนี้ได้
008 ระบบป้องกันการบุกรุกป่าและพื้นที่อนุรักษ์ของประเทศ     ต้องดำเนินการเอาจริงเอาจังกับหน่วยงานที่ออกโฉนดที่ิดินให้แก่ผู้บุกรุก ซึ่งมักนำมาเป็นข้ออ้างในการครอบครองที่ดินของสาธารณะประโยชน์หรือที่ป่าสงวน  โดยต้องเอาผิดกับกรมที่ดิน เหมือนกับที่เอาผิดกับผบ.ตร.ในกรณีที่พบมีสถานอบายมุขเช่น บ่อนการพนันในพื้นที่ต่างๆของประเทศ กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมที่ดินก็เช่นกัน ต้องโดนลงโทษปรับเป็นเงินชดใช้ ให้ออกจากราชการ ถูกนำไปประจานสังคม ถูกนำไปโบย ทำทารุณกรรมให้สาสม  ถูกยึดทรัพย์ของส่วนตัวและครอบครัว  ทั้งกรมฯเพื่อให้เกิดระบบการตรวจสอบกันเองอย่างเข้มงวดมิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนในกรมที่ดินก็ต้องโดนด้วย เพราะถือว่าปล่อยปะละเลย และไม่ทำหน้าที่ปกป้องสมบัติของชาติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญต้องเอาผิดเจ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ให้ออกจากตำแหน่งและปรับเป็นเงินชดใช้ด้วย เพราะทำงานไม่ใส่ใจ ไม่จริงจัง ไม่มีวิสัยทัศน์ในการปกป้องและสร้างสรรค์ทรัพยากรของชาติ รวมทั้งต้องเอาผิดผู้บุกรุก ให้ถูกประจานสังคม ถูกยึดทรัพย์ทั้งส่วนตัวและครอบครัว ตลอดจนต้องนำไปทรมาณให้หลาบจำ นำไปคุมขัง และทำงานสาธารณะประโยชน์ชดใช้ความผิดเป็นเวลา 10 ปี
009  โครงการเขื่อนใต้ดิน      ในสมัยก่อนตามโรงเรียนและวัดมักจะมีการสร้างแทงค์น้ำเอาไว้ใต้ดิน เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งบนบกและใต้ดิน เวลามีฝนตกก็รองน้ำลงไปเก็บเอาไว้ในแท๊งค์ใต้ดิน เพื่อหน้าแล้งหรือยามขาดแคลนน้ำก็สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้สอยกันได้ อย่างเช่นตัวอย่่าง ที่ยังมีแท๊งค์น้ำใต้ดินให้ประจักษ์เป็นหลักฐานถึงภูมิปัญญาของคนโบราณได้ ก็ที่โรงเรียนเทศบาล 5 อ.เมืองจังหวัดสมุทรปราการและโรงเรียนอนุสาส์นวิทยาสมุทรปราการก็ยังคงมีแท๊งค์น้ำใต้ดินให้เหลืออยู่  แต่หากเราเปลี่ยนที่นา ที่สวนและที่ไร่ต่างๆในต่างจังหวัดให้กลายเป็นแหล่งสร้างแท๊งค์น้ำใต้ดินขนาดใหญ่ แบบ ทั้งกว้างทั้งยาวและทั้งลึำก เอากันให้ลึกถึง50 เมตรกันไปเลย เวลาฝนตกหรือมีน้ำหลากก็นำเอามากักเก็บเอาไว้ ในแท๊งค์น้ำใต้ดินขนาดยักษ์เหล่่านี้พอหน้าแล้วหรือขาดแคลนก็สูบเอามาใช้ ก็คงจะช่วยป้องกันปัญหาเรื่องน้ำท่วม และการต้องสร้างเขื่อนที่ต้องสูญเสีย พื้นที่ป่า สัตว์ แมลง หนอน จุลินทรีย์ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีๆ หรือโบราณสถานที่ทรงคุณค่า ที่สำคัญคือเราไม่ต้องระเบิดภูเขาเพื่อเอามาทำกำแพงเขื่อน หรือสันเขื่อนแม้แต่น้อย แต่เราสามารถใช้อิฐดินเผา    อย่่่างอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินของคนโบราณเขาก็ใช้อิฐดินเผา หรืออย่างเข่น อุโมงค์ใต้ดินของพวก    เวียดกงสมัยสงครามเวียดนามที่เขาสร้างขึ้นเพื่อทำการรับมือและต่อสู้กับทหารของสหรัฐอเมริกา อันเกรียงไกร จนชนะได้    นับเป้นความน่าทึ่งมากในภูมิปัญญาของชาวเวียดกงที่เขาสามารถสร้างอุโมงค์ใต้ดินอันแสนอัศจรรย์ ซึ่งนอกจากไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมแล้วยัง ไม่มีผลเสียต่อชั้นน้ำบาดาลอีกด้วย ก็น่าจะลองศึกษาแล้วนำมาสร้างในประเทศไทยกันบ้างนะครับ เมื่อพื้นที่ใต้ดินในที่สวนไร่นาของชาวบ้านในต่างจังหวัดกลายเป็นเขื่อนใต้ดินไปแล้ว โดยข้างบนของเขื่อนก็ยังเป็นชุมชน เป็นที่สวนไร่่นา หรือพื้นที่ประกอบอาชีพอื่นๆได้ตามปกติ ก็ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องการอพยพที่อยู่อาศัย และไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม โิคลนถล่มกันอีกต่อไป
010 คูคลองรอบที่นา     ช่วยหน่อยนะ ที่จริงหากเราไม่ต้องสร้างเขื่อนที่ต้องระเบิดภูเขา เพื่อเอาหินปูนมาทำคอนกรีต และไม่ต้องทำลายป่า และฆ่าชีวิตสัตว์เพื่อเอาหินปูน และเพื่อสร้างเขื่อน เราก็สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ แค่ใช้ที่นาที่มีอยู่แล้ว ตลอดทีนาจะมีคันดินซึ่งเป้นแนวเขตแปลงนาแต่ละแปลง หากคุณขอเช่าซื้อ ที่ดินขนานกับคันดินเหล่านี้ซัก 5คุณ10 เมตร คือความกว้าง5-12เมตร ความลึก 10 เมตร แล้วขุดลึกลงไปให้เป้นคลอง แต่ต้องขุดเป้นแนวราบนะ จากตื้นไปหาลึกไม่ใช่ขุดเป้นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะอาจทำให้ตลิ่งพัง แล้วคุณก็จะได้ดินกับทรายนำมาขาย หรือได้ดินก้นคลอง ทุกๆ 3เดือน ซึ่งสามารถนำขึ้นไปขาย ถมที่ได้ตลอด แล้วเมื่อน้ำเข้ามาในคลองที่ขุดล้อมรอบแปลงนาแต่ละแปลงที่เราทำการเช่าซื้อจากชาวนาแล้ว ก็จะสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่ในท้องนา เพราะน้ำที่ท่วมอยู่ในท้องนา มีระดับความลึกไม่เกิน 3 เมตร แต่ในคลองสามารถรองรับน้ำได้มากกว่า 9 เมตร และเมื่อเราปลูกต้นไม้สองข้างฝั่งคลอง โดยเฉพาะพืชที่กินน้ำจุ อย่างเช่น ยูคาลิปตัส ที่มีมากกว่า 700 สายพันธุ์ ที่กินน้ำจุแตกต่างกัน ประเทศฟินแลนด์ดินแดนแห่งทะเลสาบหนองบึงที่มีมากที่สุดในโลก ได้ใช้ต้นยูคาลิปตัสไปกำจัดทะเลสาบหนองบึงเหล่านี้ได้ผลสำเร็จมาแล้ว โดยสามารถควบคุมให้มีในระดับพอดี และเมื่อเราปลูกหญ้าแฝก กันตลิ่งพัง และปลูกไม้ยืนต้นอื่นๆอีกมากมายที่ให้ผล ดอกใบ ราก เปลือกไม้ และเนื้อไม้เพื่อทั้งบริโภค และอุปโภคได้ อย่างน้อยก็ปลูกต้นมะพร้าว ต้นตาลตโนด ต้นกล้วย ต้นตะขบ ต้นหมากเม่า ต้นสะตอ ต้นผักหวานบ้าน ผักหวานป่า ต้นมะกูด มะดัน มะขาม กระเจี๋ยบแดง กระชายดำ กระชายเหลือง ขมิ้นชัน ต้นกระบก ต้นยางนา ต้นยางอินเดีย  แล้วทำแพปลูกพืชลงในคลอง ทำกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำในคลองที่ขุดล้อมรอบแปลงนาแต่ละแปลง ที่เชื่อมต่อติดกันให้เป้นระบบคูคลองรับน้ำล้อมรอบที่นาทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ชาวนาก็ได้ประโยชน์ น้ำก็ไม่ท่วม ในคลองก็ทำประโยชน์ได้ ปลูกข้าวบนแพที่มีกระบะใส่ดิน หรือกล่องดินเผาใส่ดินเพื่อปลูกพืชเหมือนกับชาวบ้านในทะเลสาบเขมร ก็ยังได้ ไม่เห็นต้องกลัวน้ำท่วมเลย น้ำก็มีใช้ เรื่องน้ำท่วมและน้ำแล้งจะกลายเป็นอดีตไปเลย  ผมก็เคยเป็นเสื้อเหลือง แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าใครก็ได้ที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน สัตว์ต่างๆและประชาคมโลก ผมก็โอเคสนับสนุนทั้งนั้น ไม่อยากยึดติด และท่านก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้ ทำเลยครับ ผมจะเป้นกำลังใจ และเป็นกำลังทางปัญญาเสนอความคิดเพื่อช่วยท่านป้องกันปัญหา แก้ไขปัญหา และพัฒนาบ้านเมือง ตลอดจนประชาคมโลกให้มีความสุขอย่างยืน ไม่อยากให้ยึดติดว่าต้องเป็นเสื้อแดงหรือคนพรรคเพื่อไทย  อยากให้คิดว่าใครก็ได้ที่รักชาติ รักโลก  จากผม ben2at
011 โครงการสวมตอไม้     เคยเห็นตอไม้ซึ่งแต่เดิมก็เป็นต้นไม้ใหญ่แต่ถูกคนตัดจนเหลือแต่ตออย่างที่เห็น เมื่อเหลือแค่ตอ หากยังมีระบบรากที่แข็งแรง เหนียวแน่นอยู่ใต้ดิน เราจะกลัวไปใย เมื่อปล่อยให้ตอเหล่านั้นได้มีเวลาเจริญเติบโตงอกงามขึ้นมาเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ใหม่ ที่สำคัญคือต้องรักษาปกป้องเจ้าตอไม้เหล่านี้ให้มีชีวิตอยู่ได้ ให้พลังชีวิตของเขายังคงดีอยู่ และเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆด้วยอาหารธรรมชาติ และต้องสวมชุดป้องกันให้เขาอาจจะเป้นทำเป็นฝาครอบให้แก่เขา แล้วติดตั้งระบบแสงตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้เขาได้สังเคราะห์แสงได้มากขึ้น ให้มูลสัตว์และซากพืชบริเวณรอบโคนต้นของเขาให้มาก ให้น้ำพอเพียง หรือให้มากๆเพื่อใบจะได้ออกมาเร็วๆ และมีใบเยอะๆ แต่ที่น่าจะเป็นไปได้และทำได้เลย คือการนำกิ่งของพันธุ์ไม้ชนิดเดียวกันกับเขา ทั้งพันธุ์เดียวกันและต่างสายพันธุ์นำมาปักลงบนตอ เหมือนปักชำ ทาบกิ่ง เพื่อให้ กิ่งเหล่านั้นได้เติบโต กลายเป็นต้นใหญ่ในเวลาไม่นาน หรือถ้าหากเรายังมีลำต้นของต้นเดิมที่พวกตัดไม้ทำตกหล่นไว้บ้างหากเรานำมาบำรุงอย่างดีและเอามาต่อติดกับตอเดิม จากนั้นก็ทายาหรือให้อาหารให้น้ำและแสงแก่เขาให้มาก ก็มั่นใจได้ว่า จะทำให้เขาฟื้นคืนชีพและเติบโตได้ในเวลาไม่นานอย่างแน่นอน ทำเถอะครับดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เอาซะอย่างต้องเกิดขึ้นได้แน่นอน ใช้สารอาหารยิ่งยวด หรือสารยาผสานแผลต้นไม้แบบยิ่งยวดก็น่าจะทำได้นะ
012  โครงการสร้างหลุมรับน้ำท่วมในพื้นที่รอบคันดินของแปลงนา และในพื้นที่ตรงกลางของคลองต่ีางๆ     

ใช้รถแท๊คเตอร์ แบ๊คโฮล เคนโมบาย และรถแทคไลน์ หรือปั้นจั่น ตอกหรือกดเสาเข็มที่มีขนาดความยาวตั้งแต่ 12-20-50-100 เมตร หรือใช้เสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าก็ได้ โดยกดหรือตอกให้ลึกลงไปในดินแล้วก็ดึงขั้นมาใหม่ แล้วก็กดหรือตอกให้จมดินลงไปใหม่ เราก็จะได้หลุมที่ลึก และใหญ่ แถมยังมีหลายๆหลุม จนดูเหมือนเป็นบ่อลึกหลายๆบ่อได้อย่างรวดเร็ว วันละหลายๆหลุม แต่เราจะต้องทำหลุมเหล่านี้ในพื้นที่รอบคันนา หรือคันดินที่อยู่รอบแปลงนา จนดูเหมือนว่ากลายเป็นคูคลองรับคันนา ที่มีขนาดความลึกและกว้างมาก เช่นกว้าง 5-10 เมตร และลึกตั้งแต่ 12-20-50-100 เมตร โดยใช้เวลาขุดไม่นาน แตกต่างกับการใช้รถแท๊คเตอร์หรือแบ๊คโฮลขุดดินขึ้นมา ให้กลายเป็นบ่ีอ อย่างที่ทำกันทั่วไป ในพื้นที่เกษตร และอีกวิธีหนึ่งก็คือการตอกหรือกดเสาเข็ม หรือเสาไฟฟ้าลงในคลองต่างๆโดยเลือกเอาบริเวณตรงกลางของคลองเหล่านั้น สร้างหลุมให้ลึก โดยใช้รถแทคไลน์ แท๊คเตอร์ แบ๊คโฮล เคนโมบาย กดหรือตอกเสาเข็มที่ยาว 12-20-50-100 เมตร แล้วก็ดึงเสาขึ้นมาเพื่อกดตอกทำหลุมอื่นต่อๆไป โดยต้องใส่ตัวสวมหรือท่อลงไปในรูที่เจาะด้วยแทคไลน์เพื่อป้องกันดินถล่ม ซึ่งอาจจะใช้ท่อดินเผา ท่อไม้ ท่อพีวีซีก็ได้แต่ไม่ควรใช้ท่อซีเมนต์ เพราะสิ้นเปลืองทรัพยากรภูเขาและป่าไม้เวลาที่ต้องซีเมนต์มาจากภูเขา ป่าก็ต้องถูกตัด สัตว์ป่า แมลง หนอนก็เดือดร้อน  ขุดเจาะแล้วฝังท่อลงในหลุมแบบนี้ไปตลอดคลองเราก็จะได้หลุมรับน้ำท่วมได้สบายน้ำที่มีอยู่ในคลองหรือที่นา ตั้งแต่ 1-5 เมตร ก็จะไหลลงสู่หลุมลึกเหล่านี้ หรือคูคลองรอบคันดินรอบแปลงนาแต่ละแปลง แต่เราต้องมีทุ่นลอยให้รู้จุดที่เป็นหลุมรับน้ำในคลอง แต่ในท้องนา ที่ทำเป็นคลองรับน้ำรอบคันดินแล้วก็จะสามารถทำให้น้ำในท้องนาแห้งลงได้ทันที จนเหลือน้ำขังในท้องนาเพียง 30 เซ็นติเมตรเท่านั้น แล้วเราก็ปลูกต้นยูคาลิปตัส ให้ติดกันตลอดรอบฝั่งคลองทั้งสองฝั่ง ปลูกให้ติดๆกันเพื่้อให้เจ้ายูคาลิปตัสที่กินน้ำวันละ 60 แกลลอนได้ช่วยเร่งเปลี่ยนน้ำให้เป็นเนื้อไม้โดยเร็ว เพื่อทำให้น้ำแห้งโดยเร็ว และได้ประโยชน์จากต้นยูคาลิปตัส รวมทั้งยังสามารถปลูกพืชอื่นๆตลอดสองฝั่งคลองรอบคันดินที่นา และตลอดคลองที่มีหลุมรับน้ำอยู่กลางคลองได้อีกด้วย ทำได้เลย ไม่เกิน 3 สัปดาห์น้ำจะแห้งลงอย่างยั่งยืน หรืออย่างเร็วสุดหากทำพร้อมๆกันทั่วประเทศ ก็จะทำให้น้ำแห้งลงภายในเวลาไม่เกิน 2 วัน ลองทำเลย

แต่อย่าระบายน้ำลงสู่ทะเลเป็นอันขาด เพราะจะเหมือนกับเราเอาลูกสนุ๊กไปเพิ่มในโต๊ะสนุ๊ก ที่มีลูกสนุ๊กซึ่งเปรียบเสมือนลมพายุเมฆฝนแต่ละลูกที่มีอยู่แล้ว แล้วกระแสน้ำที่นำก้อนน้ำลงสู่ทะเล ก็จะเปรียบเสมือนไม้แทงลูกสนุ๊กที่แต่ละประเทศจะแทงลูกสนุ๊กให้ชิ่งกระทบกันเพื่อลงหลุมนั่นก็คือ พายุแต่ละลูกจะเคลื่อนเข้าหาฝั่งและก่อปัญหาอีก เหมือนกับปล่อยโจรบนบกให้ไปรวมกับแก๊งค์โจรสลัดในทะเลมีอยู่เป็นร้อย หรือเหมือนปล่อยโจรบ้านให้เข้าไปรวมกับพวกโจรป่าที่มีอยู่เป็นร้อยเป็นพัน กลับมาสร้างปัญหาให้กับคนในเืมืองในภายหลังได้นั่นเอง เพราะเวลาน้ำทะเลลด ก็คือการกลั่นตัวจากน้ำกลายเป็นไอโดยความร้อนจากดวงอาทิตย์ แล้วก็กลายเป็นพายุเมฆฝน ต่อมา เพราะโดยปกติ ทะเลและมหาสมุทรก็เป็นแหล่งผลิตเมฆฝน หรือลมพายุอยู่แล้ว ยิ่งปล่อยน้ำลงทะเล ก็ยิ่งสร้างหายนะเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

013 โครงการป้องกันดินถล่ม     ฝนตก 200 มม.ต่อวัน เป็นเวลา 3  วันก็จะทำให้ดินอุ้มน้ำไว้ไม่อยู่ และที่สำคัญคือต้นไม้ในป่าไม่มีรากแก้ว ครับผม เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ เพราะต้องแย่งกันกิน แย่งกันโตรับแสงแดด จึงไม่มีรากแก้วเหมือนต้นไม้ที่ปลูกห่างๆกันในเมือง ดังนั้นจึงยึดเหนี่ยวอุ้มน้ำได้ไม่ดีมากเหมือนอย่างที่ใครๆเข้าใจกัน เมื่อน้ำฝนมีมากเกินไป และแรงเกินไป  ก็จะทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ได้และต้องถล่มไหลไปตามแรงน้ำ และดินบนภูเขาก็จะเคลื่อนตัวลงมาจากที่สูงลงที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่แล้ว จึงเิกิดการพังถล่มทลายได้ ดังนั้นเราจะต้องทำให้ดินรับน้ำน้อยที่สุด หรือรับน้ำที่ไม่มีความเร็วแรงมาก โดยต้องติดตั้งรางน้ำฝน ที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ หรือท่อไม้ที่ผ่าครึ่งให้น้ำฝนที่ตกลงมาอยู่ในรางน้ำนี้แทนที่จะตกลงสู่ผิวดินของพื้นป่าหรือภูเขา แล้วนำน้ำที่ไหลแรงนี้ ไปเข้าท่อที่ติดตั้งกังหันปั่นไฟ เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าต่ออีกที แล้วจึงนำน้ำที่หมุนกังหันปั่นไฟเสร็จแล้วไปลงยัง หลุมแทคไลน์ที่ตัวสวมหรือท่อยาว 50 เมตรอยู่ในหลุมไว้กักเก็บน้ำและป้องกันดินถล่ม โดยให้น้ำฝนเหล่านี้กลายเป็นประโยชน์ในยามจำเป็นต้องใช้ในคราวต่างๆ และให้เป็นแหล่งน้ำสำหรับต้นไม้ที่ปลูกรอบหลุม อย่างเช่น ต้นยูคาลิปตัส ที่กินน้ำวันละ 60 แกลลอน หรืออาจพัฒนาสายพันธุ์ยูคาลิปตัสที่กินน้ำมากกว่า 100 แกลลอนต่อวัน เพื่อเร่งการเจริญเติบโต สำหรับนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้อย่างเร็วไว และยังกำจัดน้ำที่มีมากเกินไปให้ลดลงอยู่ในความพอเหมาะ เมื่อระดับบาดาลในหลุมแทคไลน์สูงขึ้นก็จะช่วยเพิ่มน้ำที่นำไปกักเก็บนี้ให้เอามาใช้เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรมและการประมงได้ โดยเราจะใช้ท่อยาง หรือสายยางขนาดใหญ่ ท่อผ้า นำน้ำจากรางน้ำ ที่ทำจากไม้ไผ่และไม้อื่นๆ มาลงยังท่อผลิตไฟฟ้าด้วยความเร็วไม่ต้องผ่านคูคลอง เพราะน้ำจะวิ่งลงมาด้วยความเร็วสูงจากบนภูเขาลงสู่หลุมแทคไลน์ในที่สุด โดยบนภูเขาเราก็ต้องปลูกพืชคลุมดิน และพืชยืนต้นที่มีใบใหญ่ เช่นต้นยางอินเดีย ต้นหูกวาง ต้นสัก ต้นชมพู่มะเหมี่ยว ต้นพลับพลึง   ต้นลาน ต้นปาล์ม ต้นอินทผาลัม ต้นมะพร้าว ต้นตาล เพื่อลดแรงน้ำฝนที่จะตกลงสู่ผิวดิน และที่ผิวดินก็ต้องปลูกพืชคลุมดินจำพวก ว่าน สมุนไพร ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ ต้นกระดุมทอง ต้นตีนตะขาบ หญ้าขน หญ้าแฝก หรือพืชกลุ่มวัชพืช ตระกูลหญ้าต่างๆ เพื่อลดแรงน้ำฝนที่ตกลงผิวดินอีกชั้นหนึ่ง และป้องกันความชื้นในใต้ดินเอาไว้ ไม่ให้ดินแห้งจนโดนน้ำกัดเซาะให้เลื่อนไหลลงสู่ที่ราบต่ำได้ง่าย ที่สำคัญคือ จะทำใ้ห้บนผิวดินมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีแมลง ตัวหนอนอาศัยอยู่มากมาย    และระบบรากของพืชเหล่านี้จะช่วยยึดดินอุ้มน้ำเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดดินถล่มได้อีกเลย ขอย้ำ โดยเฉพาะหากเราปลูกพืชที่มีระบบรากโผล่ขึ้นเหนือผิวดินหรือผิวน้ำ แบบต้นลำพู ลำแพน และแสมได้ หรือมีระบบรากแบบแมลงมุม คล้ายต้นโกงกาง เช่นต้นเตยป่า ต้นเตยทะเล ก็จะทำให้ดินไม่มีโอกาสถล่มได้เลย                       
014  งูพิษหรือวัคซีนสารพัดประโยชน์     ในที่ๆมีความร้อนชื้นแห้ง มีต้นไม้พุ่ม มากก็ย่อมจะมีงูพิษอาศัยและยังเป็นดัชนีบ่งชี้จำนวนหนูและแมลงกินพืชที่เป็นอาหารของพวกงูที่อยู่ตามต้นไม้ พิษงู เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการนำไปพัฒนาเป็นตัวขัดขวางการทำงานของเอ็นไซม์ภายในพลาสม่า ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงให้สารตั้งต้นของฮอร์โมนแองจิโอเดนชิน โพลีเปปไตด์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากเรซิน ทำให้ท่อลำเลียงเลือดมีความดันเพิ่มขึ้น  ซึ่งพิษงูจะทำให้เกิดการขัดขวางกลไกลของการทำงานของเอนไซม์ดัง ซึ่งทำให้ความดันเลือดลดลง  บอกได้ง่ายๆว่าช่วยรักษาผู้ป่วมที่มีความดันโลหิตสูงได้  แต่จริงในพืชก็มีสารที่เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน  แต่พิษงูตะหงาวบราซิล อันเป็นสารเปปไตด์ที่มีโมเลกุล ขนาดเล็กและมีความสามารถเพิ่มการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนบราดิคินีน ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยผู้ป่วยที่มีอาการเส้นหลอดเลือดตีบตันให้มีความหวังมากขึ้น
015 การเพาะเลี้ยงูแมมบา เพื่อผลิตเซรุ่มรักษาพิษร้ายแรง  และใช้บำบัดน้ำเสีย ตลอดจนผลิตพลังงานไฟฟ้า     งูแมมบา มีพิษซึ่งเป้นสารเปปไตด์ที่มีคุณสมบัติ เป็นพิเศมากในการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ของมนุษย์และสัตว์ โดยเจ้าสารตัวนี้จะเข้าไปปิดกั้นการถ่ายประจุอิออน ของโพแตสเซียมในหน่วยแลกเปลี่ยนกระแสประสาทในเซลล์ประสาทสัมผัสและได้เรียกสารตัวนี้ว่า มัสคารินิก  การวิจัยยังพบว่าสารตัวนี้น่าสนใจอย่างมากต่อการนำไปรักษาโรคอัลไซเมอร์  ที่จริงใบแปะก๊วยและดอกอัญชันก็รักษาได้  แต่หากเรารู้จักการนำพิษร้ายแรงของเจ้างูแมมบามาประยุกต์ใช้ให้ดีก็สามารถนำไปใช้รักษาพิษร้ายแรงต่างๆทั้งจาก งู ตะขาบ แมลงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน  แมลงมุม สารเคมีจากอุตสาหกรรม หรือพิษร้ายจากไวรัส แบคทีเรีย และสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นเดียวกับการพัฒนาพิษของแมลงมุมหลายๆชนิดกับพิษจากพืชบางชนิดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมเคมี ที่อาจนำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสีย และอื่นๆในทางอุตสาหกรรม เช่นใช้ผลิตพลังงานจากพิษของสัตว์ แมลง และพืชก็ได้
016

โครงการป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง

   

เราสามารถนำขยะไม้นะครับ ของทางเทศบาลและการไฟฟ้าและภาคเกษตร หรือแม้กระทั่งตามครัวเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเป็นอุปกรณ์ป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลและแม่น้ำลำคลอง ได้โดยไม่ต้องใช้คอนกรีตแม้แต่น้อย  เพราะว่าเมื่อเราใช้คอนกรีตหรือหิน เป็นสิ่งป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง จะยิ่งทำให้พลังคลื่นสั่นสะเทือนที่มากับคลื่นน้ำด้วยความเร็ว ประมาณ1.6 กม.ต่อชม.เพิ่มเป็น1,000 กม.ต่อชม.หรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเสียงคลื่นแรงเมื่อยามกระทบกับของของแข็งอย่างเช่น โขดหิน เนินทราย กำแพงคอนกรีต นั่นก็เพราะว่ามันเป็นวัตถุแข็งยังไงละครับ  แต่คราวนี้ทำไมเมื่อคลื่นน้ำมากระทบกับกอผักตบ ดงสาหร่าย แนวป่าต้นสันตะวา ต้นกก ต้นอ้อ หญ้าทะเล ดงผักเบี้ย แนวป่าต้นตะใคร้น้ำ ที่วังตะใคร้ หรือแนวป่าต้นเหงือกปลาหมอ และต้นอ่อนของพืชชายเลนอย่างต้นลำพู แสม มักจะไม่มีเสียงคลื่นที่ดังรุนแรง แถมยังทำให้แรงคลื่นน้ำลดกำลังลงไปด้วย นั่นก็เพราะคลื่นสั่นสะเทือน ที่มากับน้ำไม่สามารถเดินทางผ่านผิวของต้นพืชที่กล่าวมาทั้งหมดได้ดีนั่นเอง โดยยิ่งเป็นของเหลวด้วยแล้ว คลื่นสั่นสะเทือนจะไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้เลย  เหมือนผีเข้าโบสถ์ไม่ได้ยังไงยังงั้นแหละ

ทีนี้หากเรานำเอาขยะไม้มารวมกันไว้ในบล๊อกซึ่งทำจากไม้สน ไม้ยูคาลิปตัส  ไม้ไผ่ แล้วเอาอวนรุมมาคลุมขยะไม้ในบล๊อคที่ทำด้วยไม้เหล่านี้เอาไว้นะครับ เอาความกว้างยาว สูง 50x20 เมตร ต้นสนหรือยูคาลิปตัส และต้นไผ่ สูงไม่เกิน 12 เมตร ก็จะดี เวลาน้ำขึ้นขยะไม้มันลอย แต่มีอวนรุนคลุมมัดอยู่ก็จะทำให้ขยะไม้ที่ลอยสูงขึ้นตามระดับน้ำก็จะไม่หลุดออกไปนอกบล๊อคไม้นั่นเอง มันจะลอยขึ้นลงปรับตัวได้ตามระดับน้ำ พอน้ำลงมันก็จะกองอยู่กับพื้นดินหรือพื้นทราย และมีความสามารถยืดหยุ่นปรับตัวรับแรงคลื่นน้ำได้ดี ตามความยาวของเชือก หรือสิ่งที่ผูกอวนรุนเอาไว้กับบล๊อคไม้นั่นเอง  จากนั้นบรืเวณชายฝั่งเราก็ติดตั้งอุปกรณ์รักษาเนินทรายหรือเนินดินได้เลย มีหาซื้อตามร้านขายต้นไม้ใหญ่ๆหลายแห่ง นั่นก็คือ ต้นเตยป่า ต้นลำเจียก ต้นเตยทะเล ก็คือต้นไม้ตระกูลเดียวกับต้นที่ผมกล่าวมาทั้งหมดเนี่ยแหละ เพียงแต่มีการนำมาปลูกกันตามพื้นที่น้ำจืด และตามอาคารสิ่งปลูกสร้างกันในเมืองจนลืมไปว่ามันเป็นพืชทะเล เพราะหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่ง คือ ต้นเตยป่าที่อยู่บนผาในเขาใหญ่ ที่ขึ้นอยู่มากมายนั้น มีหลักฐานยืนยันได้ว่าแต่เดิมที่เขาใหญ่เคยเป็นทะเลมาก่อน ก่อนที่จะเกิดพื้นที่ภาคกลางในเวลาต่อๆมา  

ดังนั้นหากเราเพียงนำต้นไม้ตระกูลเตยทะเล ไปปลูก แล้วยังมีพวกต้นสน ต้นลำพู ลำแพน นี่ขึ้นได้ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย น้ำทะเล แต่ดีที่สุดคือพื้นที่น้ำกร่อยและน้ำจืด พวกสนทะเล ต้นตาล ต้นปาล์ม ต้นเฟิร์นทะเล ต้นโพธิ์ทะเล ต้นยูคาลิปตัส และต้นหูกวางนี่ก็ขึ้นได้ดีในที่ชายทะเล ไม่ว่าจะเป็นหายทรายหรือหาดชายเลน สามารถขึ้นได้หมด ยังไม่รวมต้นมะม่วงหิมพานต์ด้วยนะ นี่ก็ขึ้นได้ดี เช่นกัน ยังมีต้นไม้อีกมากที่มีระบบรากหยั่งลึกและรักษาดิน หรือทรายบริเวณชายฝั่งทะเลได้  เกือบลืมไปต้นมะพร้าวก็ได้อยู่แล้ว  ถ้าให้ดีนะครับมีพวกไทรทะเล ไทรย้อย และต้นยางอินเดียเนี่ยก็พบว่าสามารถปลูกขึ้นได้ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลหลายแห่งนะครับ เพียงจะโดนคนตัดไปแล้วหรือยังเท่านั้นเอง พวกยางป่า ที่ต้นสูงๆยักษ์ใหญ่ พวกนี้ยิ่งขึ้นได้ และพวกต้นเรดวูด ซีครัวย่า พืชจากอเมริกาตะวันตก ที่อยู่ติดมหาสมุทรแปซิฟิก นี่สูงหลายร้อยเมตร มีอายุยืนยาวมากกว่าพันปี ลำต้นใหญ่มาก เมื่อก่อนที่ชาวยุโรปจะมาอยู่ที่อเมริกาเนี่ย คนพื้นเมือง ไม่เคยพบกับปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเล หรือแม้กระทั่งพายุเฮริเคน ทอร์นาโด ก็ไม่ได้แอ้ม ไม่มีทางผ่านด่านต้นไม้เหล่านี้ไปได้ เปรียบเสมือนเป็นกำแพงเหล็กที่คอยป้องกันทั้งแรงคลื่นน้ำและแรงลม ได้เป็นอย่างดี แต่สมัยนี้ซิ เข้ามาหมด ก็เพราะคนที่มีอำนาจรัฐ คนที่ทำเกษตรแบบชุ่ยๆบางคน และพวกนายทุนที่ตัดไม้เหล่านี้เพื่อธุรกิจของตนเองโดยไม่คำนึงถึงโลกนะครับ  ความจริงป่าถูกทำลายโดยภาคเกษตรมากกว่านายทุนตัดไม้ทำลายป่าซะอีก ดังนั้น เมื่อเราติดตั้งต้นไม้เหล่านี้ลงไปบริเวณชายฝั่งทะเล นะครับ ถ้าชายฝั่งแม่น้ำลำคลอง ก็ควรเป็นต้นเบ็น ต้นไซปรัส ต้นไทร ต้นหญ้าแฝก ต้นยางอินเดีย ต้น ตะไคร้น้ำ ต้นเตย ลำเจียก ตะโก แล้วก็มี พวกสน ต้นหลิว ต้นสบู่ดำ ก็จะยิ่งดี

และถ้าจะต้านแรงคลื่นน้ำได้ดียิ่งขึ้นนะครับ ควรมีบ้านปลาที่ทำจาก ท่อระบายน้ำเก่า โอ่งดินเผาแบบไม่เคลือบสี ตุ่มดินเผาแบบไม่เคลือบสี เครื่องจักรสานจากไม้ไผ่ ไม้อ้อ ไม้กระบก ต้นผักตบชวา ต้นกก มาเป็นบ้านสัตว์น้ำด้วย เพื่อลดแรงคลื่นน้ำ ด้วยธรรมชาติของสัตว์น้ำ เพราะเมื่อสัตว์น้ำมาอาศัยอยู่กันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกหอย เต่า ก็จะช่วยลดแรงคลื่นน้ำได้อีกทางหนึ่ง หรือเราจะใช้ไม่ไผ่มาปักเป็นแนวกำแพงแบบสลับฟันปลาก็จะช่วยต้านแรงคลื่นน้ำได้ดีเช่นกัน และหากเมื่อเราปลูกพืชน้ำอย่างเช่น สาหร่ายทะเล หญ้าทะเล ผักเบี้ยทะเล ผักบุ้งทะเล เหงือกปลาหมอ และไม้พุ่มเตี้ยอีกมากมาย ที่อยู่ได้ทั้งพื้นที่น้ำกร่อยและน้ำทะเล ก็สามารถนำมาปลูกได้  โดยเฉพาะต้นไม้ สร้างเกาะแก่ง ยกระดับดินให้สูงขึ้นเป็นเนินๆอย่างเช่น ต้นจาก  ต้นโกงกาง ต้นลำพู ตะบูน ลำแพน แสม  และต้นชะโนด แห่งบึงคำชะโนด จังหวัดอุดรธานี ที่เป็นเกาะกลางน้ำเพียงแห่งเดียวในโลกที่ เป็นเกาะลอยน้ำได้ ขึ้นไม่มีพื้นอยู่ติดกับชั้นดินใต้น้ำลอย เป็นเกาะที่เกิดจากรากไม้ และการทับถมของพืช ลอยอยู่เหนือน้ำ จึงปรับตัวลอยขึ้นลงได้ตามระดับน้ำได้ดี และไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมบนพื้นที่ของเกาะแห่งนี้มาเป็นเวลานับพันปี  ซึ่งเราควรจะนำมาศึกษาทดลองปลูก อย่างจริงจัง และพัฒนาสายพันธุ์เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่เราจะสามารถสร้างที่อยู่อาศัยอยู่บนเกาะลอยน้ำที่เกิดจากความสามารถของต้นชะโนด ซึ่งจะไม่ต้องกลัวเรื่องปัญหาน้ำท่วม หรือน้ำกัดเซาะชายฝั่งกันอีกต่อไป  

 

017 โครงการเลี้ยงผึ้ง ต่อแตน ตัวเหลือบ แมงภู่ เพื่อป้องกันการก่อการร้าย     ผึ้ง ต่อ แตน แมลงภู่ เป็นแมลงที่เพาะเลี้ยงได้ง่าย และมีความสามารถในการจดจำที่รวดเร็วกว่าสุนัก โดยเฉพาะผึ้งและแมลงภู่ที่ชอบน้ำหวานจากเกษรของดอกไม้ เมื่อเราให้ผึ้ง แมลงภู่ ได้ดมกลิ่นของสารวัตถุระเบิด หรือกลิ่นของผู้ก่อการร้าย หรือ ที่จะมีลักษณะกลิ่นเฉพาะตัวหลายแบบ โดยให้ผึ้งกับแมลงภู่ได้คุ้นเคยกับกลิ่นที่มีน้ำหวานหรือของหวานผสมอยู่ด้วย เพื่อให้ผึ้งกับแมลงภู่สนใจที่จะเข้าไปตอม ไปวนเวียนเพื่อหวังกินน้ำหวาน แล้วคุณทำรังให้ผึ้งและแมลงภู่ เพื่อให้เขากลับมารัง เมื่อได้อาหารแล้ว เวลาที่ผึ้งหรือแมลงภู่พบน้ำหวาน หรืออได้กลิ่นของวัตถุระเบิด หรือผู้ก่อการร้าย มันก็จะยื่นอวัยวะที่ดูดน้ำหวานออกมา ทำให้เรารู้ว่ามีวัตถุระเบิด หรือผู้ก่อการร้าย  โดยต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่บล๊อคตัวผึ้งหรือแมลงภู่เอาไว้ในกล่องที่จะนำไปตรวจค้นหาวัตถุระเบิดแบบต่างๆ และผู้ก่อการร้ายประเภทต่างๆ หรือคุณจะปล่อยให้ผึ้งกับแมลงภู่ บินไปหาอาหาร โดยติดตั้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ขนาดเล็กกับตัวผึ้ง เพื่อสามารถติดตามและมองเห็นภาพรังสีความร้อน หรือสัญญาณ ตลอดจนดูพฤติกรรมของผึ้งและแมลงภู่ที่บินออกไปหากิน ว่าจะไปเจอวัตถุระเบิดหรือผู้ก่อการร้ายที่ใดได้บ้าง แล้วส่งสัญญาณภาพ และเสียงมาที่ห้องควบคุม แสดงเป็นจุดพื้นที่ และตำแหน่งของผึ้ง แมลงภู่ในแต่ละพื้นที่ เหมือนเห็นภาพจากเรดาห์  เพื่อรู้ที่ตั้งของวัตถุระเบิด และผู้ก่อการร้าย โดยเราอาจจะส่ังให้ผึ้ง หรือแมลงภู่ทำร้ายผู้ก่อการร้ายโดยการปล่อยสัญญาณคลื่นเสียงที่ทำให้ผึ้ง และแมลงภู่โกรธได้ เพื่อสกัดการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ก่อการร้ายเสียก่อน ส่วนวัตถุระเบิดอาจจะใช้สัญญาณพิเศษที่ส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ที่ติดตั้งกับตัวผึ้งและแมลงภู่ ให้ทำลายระบบวงจร หรือระบบส่งสัญญาณของวัตถุระเบิดนั้น หรือส่งสัญญาณที่ทำให้วัตถุระเบิดเกิดการด้าน  ทำงานไม่ได้

ช่วงนี้มีกระดานที่อยากจะนำเสนอ

1.ควรทำบ้านแพไว้ที่หน้าบ้านหรือภายในบ้านของผู้ประสบภัย อย่างน้อยเขาจะได้มั่นใจไม่ต้องห่วงเรื่องทรัพย์สินในบ้าน
2.ควรทำบ้านแพหลายๆลำมารวมกันเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างครบวงจร โดยไม่ต้องอพยพไปที่ต่างจังหวัดอื่นๆ
3.ตอนนี้พื้นที่ใดๆที่เป็นพื้นที่ซึ้งต้องเป็นที่ซับน้ำแต่ยังน้ำไม่ท่วม ให้ระวังพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่ ที่ไม่ใช่พื้นที่ซับน้ำโดยตรง เพราะน้ำอาจจะไปท่วมพื้นที่นั้น
4.ทำให้พื้นที่ๆควรน้ำท่วมหรือเป็นพื้นที่ซับน้ำเป็นแหล่งฝัง ตุ่ม หรือโอ่งขนาดใหญ่ หรือแท๊งค์น้ำใต้ดินเพื่อรับน้ำท่วมลงในภาชนะใต้ดิน โดยเมื่อน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว ให้ใช้สายยางดูดน้ำออกด้วยวิธีกาลักน้ำ

5.ทำระบบแพcenter และแพhouse   ใช้รอก      แพยนต์ แพถีบแบบจักรยานน้ำ แพสำเภา แพค้ำถ่อ ที่ไม่ต้องให้ประชาชนเดินลุยน้ำ มารับสิ่งของหรือไปมาหาสู่กัน  ให้ตามตรอกซอยต่างๆมีศูนย์แพcenter ที่เป็นแหล่งตลาด แหล่งสิ่งของบริจาค โรงครัว โรงอาหาร สถานีอนามัย โรงพัก ศูนย์การค้า โดยใช้ระบบการส่งของกันด้วยระบบรอก ระหว่างแพcenter กับแพ house  แต่ละหลัง โดยให้ประชาชนได้อาศัยอยู่ในแพhouse ในบริเวณพื้นที่ในบ้านหรือนอกรั้วของตนเอง เพื่อไม่ต้องอพยพ และยังช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในชุมชนของตนเองได้อย่างทั่วถึง เพราะใช้รอกรับส่งของระหว่างแพ ไม่ต้องเดินลุยน้ำ และใช้โน๊ตบุคส์ หรืออินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสื่อสารสั่งของหรือขอความช่วยเหลือต่างๆระหว่างแพ house ด้วยกัน ติดต่อโดยตรงกับแพcenter ที่อยู่หน้าปากซอย เหมือนเป็นร้านค้าสะดวกซื้อ แบบเซเว่นอีเลฟเว่นได้อีกด้วย ประชาชนที่จะนำของมาบริจาคก็สามารถบริจาคได้โดยตรงที่แพcenter ของแต่ละซอยในแต่ละชุมชนได้เลย โดยเมื่อหมดปัญหาน้ำท่วมไปแล้ว ยังสามารถนำแพเหล่านี้มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวหรือพี่น้องประชาชน ที่ต้องการพักพิง หรือไร้ที่พักอาศัยให้มาอยู่ในแพเหล่านี้ได้ตามชายฝั่งแม่น้ำ หรือชายฝั่งทะเล ซึ่งจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของพื้นที่น้ำท่วมต่างๆ อันก่อเกิดรายได้อย่างยั่งยืนแก่ประชาชนและชุมชน ตลอดจนประเทศชาติต่อไป  เหมือนบ้านแพรีสอร์ตริมฝั่งแม่น้ำแควในจังหวัดกาญจนบุรี และชุมชนชาวแพในทะเลสาบเขมร ประเทศกัมพูชา 

6.เอาน้ำท่วมที่เกิดการเน่าเสียมาสร้างรายได้ โดยหาแหล่งเก็บน้ำท่วมที่เน่ีาเสียเอาไว้ในภาชนะใต้ดินที่มีความลึกมากๆ ด้วย โ่อ่ง  ถังบำบัดน้ำเสีย แท๊งค์น้ำ แล้วบำบัดด้วยจุลินทรีย์ และผักตบชวา กระแสไฟฟ้า สารเคมี เฟอร์รัสซัลเฟรต เฟอร์ริคคลอไรด์ และแพคน้ำ รวมทั้งน้ำทะเล เพื่อนำ้น้ำที่สะอาดแล้วไปใช้ เพาะเลี้ยง ปลาหมอ ปลาหมอเทศ ปลาช่อน หอย และผลิตเป็นน้ำอุตสาหกรรม และการเกษตร

7.ใช้เยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอน เปลี่ยนน้ำท่วมที่ผ่านการบำบัดแล้ว จนสะอาดเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในการเกษตร อุตสาหกรรม ครัวเรือน และหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งยังใช้กระแสไฟฟ้าที่ได้มาบำบัดน้ำเสียให้กลายเป็นน้ำสะอาดได้อีกด้วย

8.ไฮโดรเจน  จากน้ำท่วมที่บำบัดจนสะอาดแล้ว นำมาผลิตกระแสไฟฟ้า หรือนำไฮโดรเจน ที่ปล่อยจากโรงงานผลิตแก้ว อย่าง โอเชี่ยนกลาส วันละหลายหมื่นตัน นำมาผลิตเป็นไฟฟ้า แล้วต้มน้ำท่วมที่เน่าเสียให้สะอาด จนกลายเป็นไอน้ำไปปั่นกังหันไฟฟ้าแล้วนำไอน้ำกลับมาควบแน่นกลายเป็นน้ำสะอาดเพื่อนำกลับมาใช้ได้อีก

9.มีเทน จากน้ำท่วมที่เน่าเสีย ทำแบบโรงงานเลี้ยงหมูที่อ.โพธารามจังหวัดราชบุรี และจังหวัดนครปฐม ที่เอาน้ำเน่าเสียจากมูลสุกร รวมทั้งโรงงานย่านประจวบคีรีขันธ์ ที่เอาน้ำเน่าเสียจากโรงงานสับปะรด นำมาหมักบ่มผลิตเป็นแก๊ซมีเมน เพื่อจุดไฟ ต้มน้ำกลายเป็นไอน้ำปั่นกังหันไฟฟ้าได้ไฟฟ้าใช้ และยังนำแก๊ซมีเทนในบอลลูนเก็บแก๊ซใบใหญ่สีดำ มาแยกจ่ายไปตามครัวเพื่อใช้เป็นแก๊ซหุงต้มได้อีกด้วย  จึงต้องมีแหล่งเก็บน้ำท่วมที่เน่าเสียเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยังเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม  เพื่อให้ประชาชนที่ประสบภัยเกิดรายได้จากน้ำท่วมเหล่านี้อย่างยั่งยืน

10.น้ำดื่ม จากน้ำท่วม ที่ผ่านการบำบัดแล้ว ด้วยน้ำทะเล สาหร่าย จุลินทรีย์ กระแสไฟฟ้าหรือโดยแพคน้ำ หรือก๊าซโอโซน ก็จะได้น้ำดื่มที่สะอาด ยิ่งเป็นน้ำที่มีน้ำทะเลลึกผสมอยู่ เมื่อบำบัดก็จะได้แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์มากมายต่อร่างกายอีกด้วย

11.ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น สาหร่ายน้ำมัน สาหร่ายสไปรูลิน่า สาหร่ายไข่น้ำ ผักกระเฉด ในน้ำ่ท่วมที่เน่าเสีย เพื่อบำบัดน้ำเสียและยังได้พลังงาน ตลอดจนอาหาร และปุ๋ย จากสาหร่าย  รวมทั้งยังใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างยูคาลิปตัส ได้จากน้ำท่วมที่เน่าเสียเหล่านี้

12.บำบัดน้ำท่วมที่้เน่าเสียด้วยพืชมากกว่า 20 ชนิด แบบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่แหลมผักเบี้ย ที่เอาน้ำเสียจากเมืองมาบำบัดได้น้ำสะอาดนำไปทำประปาและทำประมงได้

13.เอาน้ำท่วมที่เน่าเสียมาต้มให้กลายเป็นไอน้ำด้วย การโฟกัสแสงอาทิตย์ด้วยกระจกเลนต์หลายๆชั้นหลายๆอัน เผาจนน้ำกลายเป็นไอน้ำแล้วดูดไอน้ำลงดินทำให้กลายเป็นหยดน้ำ เพื่อให้รากของต้นไม้ดูดกินเข้าไปไว้อยู่ในต้น  ซึ่งจะทำให้ต้นไม้มีใบมากขึ้น และมีขนาดลำต้นที่ยืดยาวสูงขึ้นหนาขึ้นกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ก่อเกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เราจะได้ป่าไม้ชุมชน หรือป่าเศรษฐกิจที่สูงยักษ์ ในเวลาอันสั้น

14.นำน้ำท่วมที่เน่าเสีย มาบำบัดด้วย กรดเคมีที่มีความร้อนสูง ที่เป็นขยะอุตสาหกรรม เช่น ไมโครเอชชิ่ง ซัลฟูริค ฯลฯ เพื่อใช้เป็นแหล่งกำจัดกรดเคมีที่เป็นขยะอุตสาหกรรม จากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิตไอน้ำปั่นไฟฟ้า และยังได้น้ำสะอาดที่เมื่อผ่านการคูลลิ่งแล้วบำบัดด้วยจุลินทรีย์ หรือกระแสไฟฟ้าแล้ว ก็จะได้น้ำสะอาดกลัับไปใช้ใหม่ และยังได้ค่ากำจัดขยะอุตสาหกรรมด้วย

15.และที่สำคัญอย่างง่ายเลยนะครับ หากเราใช้แท๊คเตอร์หรือแบคโฮล ขุดเป็นบ่อลึก 10 เมตร กว้าง 12 เมตร ยาว 20 เมตร แล้วเอาผ้าใบหรือแผ่นพลาสติกใส แบบที่เขาใช้เลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก คือทำบ่อแบบเดียวกันกับการเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก แต่ทำให้กว้าง ยาวและลึกมากกว่าเดิม เมื่อน้ำท่วมไหลมาก็จะลงไปในบ่อพลาสติกนี้แทน แล้วเราก็เลี้ยงปลาหมอ ปลาช่อน สาหร่ายสไปรูลิน่า สาหร่ายน้ำมันต่างๆ สาหร่ายไข่น้ำ ดอกจอก ผักตบชวา ผักกระเฉด แล้วถ่ายน้ำเสียด้วยสายยางโดยใช้วิธีกาลักน้ำ แล้วนำน้ำเสียที่ถ่ายออกมานั้นไปหมักบ่มให้กลายเป็นแก๊ซมีเทนเพื่อทำพลังงานไฟฟ้าและแก๊ซหุงต้มต่อไปก็ยังได้ 

 


ป้องกันการทุจริตและความไร้ประสิิทธิภาพในการทำงานของข้าราชการและนักการเมือง 
เป็นเพื่อนกันได้ ไปใช้สิทธิรัฐธรรมนูญเรียกร้องค่าเสียหายจากราชการท้องถิ่น,กรมชลประทาน ,พรรคการเมืองในอดีตและปัจจุบันทีเคยรับผิดชอบเรื่องน้ำท่วม เพราะเป็นหน้าที่แต่ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและทรัพย์สิน  เป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องฟ้องที่ศาลปกครอง เรียกร้องตั้งแต่ เทศบาล อบต.อบจ.ผู้ว่าราชการ กรมชลประทาน,ปภ.เทศบาล ปภ.จังหวัด และปภ.ประเทศ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพรรคการเมืองที่หาเสียงเรื่องป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำ-ท่วม ฟ้องร้องได้ตามความเสียหายจริงรายละ แสนบาท หรือล้านบาท คิดดูซิถ้าคนรู้สิทธิตามกฎหมายตัวนี้แล้วไปใช้สิทธิฟ้องร้องกันแบบใช้งานเฟซบุคส์ กันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกสน.วันละ พันวันละหมื่นคน เรียกว่าฟ้องกันทุกเรื่องคนละ 10-20 คดี

หากทำกันอย่างนี้จริงจัง จะทำให้อำนาจประชาธิปไตยเป็นของประชาชนจริงๆ เพราะได้ใช้อำนาจอธิปไตยกันเป็น หรือท่านจะรอรับเงินชดเชยรายละ5000 บาท ทั้งๆที่จริงเรียกได้เป็นล้านบาท ข้าราชการและนักการเมืองจะอยู่ในอำนาจของประชาชนเพราะประชาชนรู้จักใช้สิทธิฟ้องร้องเอาผิดกันอย่างจริงจังเหมือนเข้าใช้เฟซบุคส์กันทุกวัน ข้าราชการและนักการเมือง จะกลายเป็นแค่ตัวหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ที่ซื้อขายกันได้เป็นรายวันและเหมือนนักฟุตรบอลอาชีพที่ซื้อขายกันได้ตามกระแสซื้อขายกันทางกฎหมายของประชาชน กำหนดได้เลยว่า นโยบายใด กฎหมายใด โครงการใด หรือการกระทำใด ของข้าราชการและนักการเมืองที่ทำไปแล้ว เกิดผลดีผลเสีย คิดเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม และศีลธรรมเท่าไร ประชาชนทั้งประเทศจะสามารถกำหนดรู้และควบคุมได้   ทำให้นักการเมืองในระบบพรรค ที่ทำงานเพื่อพรรค จะค่อยๆ ตายไป เกิดนักการเมืองอิสระหรือสส.อิสระที่ไม่สังกัดพรรค ทำงานเพื่อประชาชน ในพื้นที่และประชาชนทั่วประเทศที่โหวตคะแนนซื้อในตลาดหลักทรัพย์ตามปัจจัยการกระทำของสส.หรือรัฐมนตรีคนนั้น ว่าจะก่อเกิดผลบวกหรือผลลบ ต่อหุ้นที่เขาซื้อขายมากแค่ไหน เหมือนการโหวตในการประกวด The Stars ช่วยกันหน่อยนะครับ


การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอีกแนวหนึ่ง

อยากให้ช่วยนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง ไม่ใช่ฉาบฉวย  ตามกระแส ผมก็เป็นสื่อมวลชน คนทำเว็บไซต์ เข้ากูเกิ้ลแล้วพิมพ์ben2at ผมมีวิธีแก้ปัญหาน้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำกัดเซาะชายฝั่ง แผ่นดินถล่ม แต่ไม่มีโอกาสดีได้นำเสนอเหมือนพวกท่านจึงอยากให้พวกท่านซึ่งมีโอกาสดีกว่าผมในตอนนี้ช่วยหน้าที่ให้มันจริงจัง เพื่อชาติบ้านเมือง 


  ที่จริงหากเราใช้กระจกเลนต์ขนาดใหญ่าหลายชั้นโฟกัสแสงอาทิตย์ เพื่อให้เกิดจุดรวมแสง เผาผิวน้ำจนระเหยกลายเป็นไอ แล้วใช้ท่อที่มีพัดลมดูดอากาศหรือตัวดูด เพื่อดูดไอน้ำลงใต้ดินให้กลายเป็นประโยชน์ต่อต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้นำไปเปลี่่ยนกลายเป็นเนื้อไม้ภายในต้น  ไม่ว่าน้ำจะมีปริมาณมากแค่ไหนหากเราเปลี่ยนสถานะให้กลายเป็นก๊าซ หรือไอน้ำได้ แล้วนำไปเก็บในต้นไม้  ต้นไม้จะขยายตัวสูงเจริญเติบโต ออกใบมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลเสียใดๆต่อประเทศและสิ่งแวดล้อมเลยแม้แต่น้อย  หากคุณคิดเอาน้ำลงทะเล น้ำที่อยู่บนผิวน้ำชั้นบนสุดของทะเลก็จะถูกความร้อนของดวงอาิทิตย์เผาให้กลายเป็์นไอน้ำ ลอยเป็นเมฆ ก่อตัวเป็นฝน หรือลมพายุ พัดเข้าฝั่งมาสร้างความเดือดร้อนครั้งต่อๆไปอย่างไม่รู้จบ 
 หรือคุึณจะเอาน้ำลงตุ่มลงโอ่ง ที่ฝังใต้ดิน เอาใบใหญ่ๆ ซัก2-4 เมตร หรือขุดบ่อลึก 8 คูณ6 คูณ10เมตร.แล้วเอาแผ่นไม้กระดานหรือแผ่นเหล็กพาดบ่อเพื่อไม่ให้คนหรือสัตว์ตกลงไป เมื่อน้ำมาก็จะได้ไหลลงไปในบ่อหรือในโอ่งในตุ่มเหล่านี้แทน อย่างน้อยก็ลดปริมาณน้ำบนผิวดินได้   ดีกว่าเสียเวลาไปกับการ สร้างฝายชะลอน้ำด้วยกระสอบทราย
  อย่าทำแค่ให้มันผ่านๆไป เพราะทำแบบนี้ในสมัยสุรยุทธ์ และอภิสิทธิ์ มา 4 ครั้งแล้ว ตอนนี้สภาพแวดล้อมมันไม่เหมือนเดิมแล้ว  น้ำแข็งขั้วโลกมันละลายมากขึ้น  ประเทศที่สร้างเขื่่อนมีมากขึ้น เขื่อนก็คือทะเลบนบก ซึ่งสามารถให้ฝนได้เช่นกัน     ควรเลิกคิดแบบเดิม เช่น สร้างเขื่อน ระบายน้ำลงทะเล  ต้องทำยังไงที่จะไม่ให้น้ำลงทะเล ซะมากกว่า  เปลี่ยนน้ำให้เป็นก๊าซ หรือเนื้อไม้ในต้นไม้ยังจะดีกว่า  ประหยัดพื้นที่ และยังได้ผลประโยชน์กลับมา แต่ก็ไม่เอานิวเคลียร์จากยูเรเนียม พลูโตเนียม  รู้จักเตาปฏิกรณ์จากอนุภาคตะกั่วมั๊ย  สามารถให้ความร้อนได้มากกว่า 1 ล้านองศาเซลเซียส ต้มน้ำให้กลายเป็นไอได้สบาย แล้วตะกั่งยังราคาถูกและรีไซเคิลนำมาใช้ได้ใหม่  ไม่มีกากกัมมันตภาพรังสีเหมือนยูเรเนียมและพลูโตเนียม  
 เอาน้ำท่วมลงในบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่ฝังอยู่ตลอดถนนสุขุมวิท บ่อบำบัดนี้ไม่ได้ถูกใช้ มีความลึกและใหญ่มาก แถมท่อส่งน้ำเสียเพื่อไปบำบัดยังโรงงานบำบัดน้ำเสียที่คลองด่านซึ่งอยู่ใกล้ทะเล ยังมีความยาว และเป็นการนำน้ำท่วมไปได้เร็วกว่าการส่งไปตามคูคลอง  เพราะเป็นช่องทางบายพาสอยู่แล้ว  แต่ให้เอาน้ำท่วมไปต้มให้กลายเป็นไอน้ำ เพื่อนำลงดินให้รากของต้นยูคาลิปตัส หรือพืชที่ชอบความชื้นชนิดต่างๆ  ได้นำไปอยู่ในลำต้นแทนการปล่อยลงสู่ทะเล เพราะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
   ถ้ารัฐธรรมนูญปลดล๊อคมาตราที่ให้สส.ต้องจบปริญญาตรีจึงจะเป็นสส.ได้   และมาตราที่ให้สส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง ไม่ให้มีผู้สมัครอิสระ   เมื่อไรปลดล๊อคมาตราเหล่านี้ออกไปประเทศไทยคงจะเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของพรรคการเมืองและข้าราชการประจำ  เป็นคนของประชาชนหรือทำเพื่อประชาชนจริงๆ    ช่วงสนใจข้อเสนอเหล่านี้หรือเข้าไปอ่านในเมนู six o clock ของเว็บben2at และเมนูการลงทุนก็ได้ ช่วยหน่อยทีเถอะ  
 เพราะถ้าคุณรับฟังผมเมื่อปี2553 ที่ผมเคยมานำเสนอเรื่องเหล่านี้แล้ว  แต่ไม่มีใครสนใจเลย
  หากพวกคุณสนใจและเห็นว่ามีคุณค่ามากกว่าการทำข่าวแต่ภาพคนเดือดร้อนเพราะน้ำท่วม ก็คงจะทำให้เหตุการณ์เหล่านี้มันไม่เกิดอย่างเช่นทุกวันนี้ 
  ขอให้แก้ไขใหม่ช่วยนำเสนอและทำให้เรื่องนี้มันจริงจัง เพื่อบ้านเมืองของเราและยังแก้ปัญหาน้ำท่วมในประเทศอื่นๆได้ด้วย  
 ก่อนที่จะถึง ปี2555  และ2556  เพราะมันจะแก้ไขยากมากขึ้น    จากคนที่รักชาติบ้านเมืองและรักโลก พร้อมทั้งมีจิตวิญญาณแห่งสื่อมวลชนมากกว่าสื่อมวลชนอีกหลายๆคนในประเทศนี้



มีข่าวดีจะมาบอ


 ตอนนี้เราได้พบพื้นที่ ที่เหมาะจะทำแก้มลิงแล้ว โดยไม่ต้องเวนคืนที่ดินของชาวบ้าน และไม่ต้องไปสร้างเขื่อนที่แก่งเสือเต้น ซึ่งป่าเป็นแหล่งป่าสักทองผืนสุดท้ายของเมืองไทย ที่มีอายุหลายร้อยปี และมีความหลากหลายทางชีวภาพที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย  

ถ้าใครจำได้เมื่อ 2540 เราจะได้ยินข่าวเรื่องมีการทำสวนส้มกันที่รังสิต มีสวนดอกไม้กันด้วย

แต่ปัจจุบันไม่มีเหลือแล้ว  แต่กลับมีพื้นที่ทำเกษตรใหม่ๆ เช่นทำสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพาราและพืชอีกหลายชนิดในพื้้นที่ของจังหวัดปทุมธานี ย่านหนองเสือ ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเปรี้ยว

"โดยมีพื้นที่เป็นดินเปรี้ยวมากถึง 500,000 ไร่ มีบริเวณกว้างทอดยาวไปถึงจังหวัดสระบุรีกันเลย  หากเราเอาพื้นที่บริเวณนี้มาทำแก้มลิง หรือแทคไลน์มีเทนคาลิปตัส ซึ่งเป็นโครงการที่ผมคิดขึ้นมาเอง โดยทำให้เป็นแก้มลิงที่มีความลึกมาก ๆตั้งแต่ 50 เมตรขึ้นไป "  

แต่ต้องให้มีพื้นที่ธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์คงเหลือไว้ในพื้นที่แก้มลิง ในรูปแบบของเกาะแก่ง ทำให้เหมือนหมู่เกาะอ่างทอง ที่จังหวัดสุราษฐ์ธานีกันไปเลย สัตว์ แมลง ตัวหนอน และพันธุ์พืชที่เคยมีอยู่ในพื้นที่จะได้สามารถดำรงอยู่และขยายเผ่าพันธุ์กันต่อไป  


Winkโดยตอนที่่จะทำการขุดดินเพื่อทำแก้มลิงนั้น ก็ควรทำการต้อนสัตว์แมลง ในพื้นที่ให้ไปยังจุดที่เรากำหนดให้เป็นเกาะแก่ง เสียก่อน อาจจะใช้วิธีการแบบพื้นบ้าน ที่ใช้ปะทัดจุดไล่ ใช้เสียงปืนแก๊บยิงไล่ ใช้ควันขับไล่ต้อนให้สัตว์และแมลง เดินทางไปยังพื้นที่ๆกำหนดให้เกาะสำหรับสัตว์แมลง ส่วนต้นไม้ในพื้นที่ๆจะขุดดินเพื่อให้ลึก 50 เมตร ก็ต้องใช้วิธีการขนย้ายต้นไม้ ด้วยรถแบ๊คโฮล แท๊คเตอร์ สลิง แบบที่สมเด็จย่าท่านเคยใช้เวลาต้องการพัฒนาพื้นที่ใด และทรงกลัวว่าต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีอายุยืนยาวจะต้องเสียหายหรือสูญพันธุ์ไป  พระองค์ก็ทรงให้เคลื่อนย้ายต้นไม้ด้วยวิธีการที่จะไม่ทำให้ต้นไม้ต้องเสียหาย  นำเอาใส่กระถาง หรือเพาะชำ ตลอดจนให้นำให้ปุ๋ยอยู่ตลอด เพื่อให้สามารถนำต้นไม้เหล่านั้นนำไปปลูกได้ต่อไป  ส่วนตัวหนอนหรือจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในชั้นดิน ซึ่งอาจจะมีความลึกไม่เกิน สองเมตร เราก็ใช้การขุดหน้าดินบริเวณพื้นที่นั้นให้ลึกลงไปถึงสองเมตร แล้วนำดินเหล่านั้นไปกองไว้ในบริเวณที่เรากำหนดให้เป็นเกาะแก่ง เพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดินเหล่านั้น จะได้ดำรงชีวิตต่อไปในพื้นที่ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเกาะแก่งเรียบร้อยแล้ว  เท่านี้เราก็จะยังได้พันธุ์พืช สัตว์ แมลง หนอน จุลินทรีย์ ในพื้นที่ดั้งเดิมอย่างครบถ้วน  โดยที่เมื่อพัฒนาโครงการสำเร็จแล้วก็ยังช่วยประหยัดงบประมาณเรื่องการจัดหาพันธุ์พืชมาปลูกในพื้นที่  เพราะเราใช้พันธุ์พืชท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วได้เลย อาจจะมีพันธุ์พืชต่างถิ่นที่นำมาผสมผสานเพื่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ที่ผสมกลมกลืนกับสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่นได้  ก็ยังสามารถจะทำโดยไม่มีผลกระทบใดๆต่อระบบนิเวศน์เดิม


ทั้งยังทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ได้มีน้ำเพื่อการเกษตร และการดำรงชีพ เป็นแหล่งทำการประมงน้ำจืด และประมงน้ำกร่อย ก็ได้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นแพรีสอร์ต โรงแรมบ้านพักบนแพลอยน้ำก็ได้ โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน  ทำเป็นตลาดนัดลอยน้ำ ดึงนักท่องเที่ยวให้มาจับจ่ายใช้สอยและพักผ่อนเที่ยวชมธรรมชาติของสรรพสิ่งในแก้มลิง ตามเกาะแก่งต่างๆ ได้อย่างน่าตื่นตาใจ มีเกาะแก่งที่เป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่ เหมือนเป็นคนชาวเกาะก็ทำได้ เหมือนชาวเกาะเกร็ด เกาะสมุย เกาะศรีชัง หรือชุมชนชาวปันหยี ชุมชนชาวทะเลสาบเขมร ก็ทำได้ และยังเป็นแหล่งอนุรักษ์และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ก็ยังได้ โดยตลอดชายฝั่ง ก็ให้ปลูกพันธุ์ไม้ยืนต้นและล้มลุกที่มีประโยชน์ใช้สอยได้อย่างยั่งยืน  ให้มีการทำเกษตรบนแพกันให้ทั่วพื้นที่ ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำท่วมและภัยแล้ง  ที่สำคัญยังสามารถเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล ทั้งจากการมีระบบกังหันปั่นไฟจากกระแสน้ำ คลื่นน้ำในแก้มลิง แรงลม  พลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ก็สามารถติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ขึ้นบนแพได้ทั่วแก้มลิง

และสิ่งดีๆอีกมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่แห่งนี้  ช่วยกันบอกต่อๆๆๆกันไปนะครับ ช่วยทำให้เกิดขึ้นจริง เร็วๆด้วยเถอะ






โครงการเกาะกระชังป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง

หลายคนคงแปลกใจ กับชื่อนี้   กระชัง หรือกระชังที่ใช้เพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำของชาวประมง อันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีมานานแล้ว ซึ่งทำรายได้และนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในด้านอาหารการกินให้แก่ชาวบ้านและประเทศชาติ 

ซึ่งแต่เดิมกระชังเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำนั้น เป็นกระชังในระบบปิด คือปิดเพื่อไม่ให้สัตว์น้ำออกไปนอกกระชังได้


แต่กระชังระบบเปิดคือ การปล่อยให้สัตว์น้ำได้เข้ามาอยู่อาศัย ผ่านไปผ่านมา แวะเวียนมาเที่ยวหรือพักพิงก็ได้ 

แต่ที่สำคัญคือ โดยปกติกระชัง กับแพ ก็มีหลักการคล้ายๆกัน คือเป็นวัตถุที่ลอยอยู่บนน้ำ สามารรับน้ำหนักของคนสัตว์สิ่งของได้  ดังจะเห็นจากการที่ชาวประมงใช้ไม้กระดานพาดไปบนกระชังระบบปิด เพื่อเข้าไปดูแลเหล่าสัตว์น้ำที่ได้เพาะเลี้ยงไว้ ว่ามีปริมาณมากน้อยและมีสุขภาพเป็นอย่างไร น้ำที่ไหลผ่านเข้าออกกระชังเป็นอย่างไร ต่อเหล่าสัตว์น้ำบ้าง 


ส่วนแพนั้นก็

เป็นสิ่งที่ใช้เพื่อโดยสาร หรือบ้างก็ใช้เพื่อการเป็นที่อยู่อาศัย


แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็เหมือนกัน คือลอยอยู่บนน้ำได้  และช่วยลดแรงคลื่นน้ำที่พัดเข้ามากระทบชายฝั่ง ได้เช่นกัน เพราะต้องพัดผ่านมากระทบกับแพ หรือกระชังซะก่อน จึงมีประโยชน์ในการช่วยลดแรงคลื่นของสายน้ำได้


เมื่อพิจารณาดูแล้วหากเรานำวิธีการดังกล่าวนี้มาผสมผสานกับความมหัศจรรย์ของเกาะคำชะโนด ที่จังหวัดอุดรธานี  ที่เป็นเกาะลอยอยู่บนผิวน้ำ มิใช่เกาะที่เป็นพื้นดินหรือพื้นทวีปของเปลือกโลกงอกขึ้นมาจากใต้ทะเล หรือมิใช่เกาะอันเกิดจากแนวปะการัง หรือเกาะภูเขาไฟ 


แล้วเกาะคำชะโนด เป็นเกาะแบบใด จึงลอยอยู่บนน้ำ และไม่เคยถูกน้ำท่วมเลย แตกต่างจากหมู่เกาะทั่วไป ที่มักประสบปัญหาจากคลื่นลมทะเล และน้ำจากทะเลเข้ามาท่วมได้


Cool"เกาะคำชะโนดนั้น เป็นเกาะที่เกิดจากการรวมตัวของพืชน้ำจำพวกสวะ อย่างพวกผักตบชวา สาหร่าย พืชที่ลอยเป็นแพอยู่บนน้ำได้ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีพืชน้ำแบบนี้แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่  แต่ที่แตกต่างกันมากก็คือ จำพวกพืชน้ำเหล่านี้ที่ลอยเป็นสวะอยู่ในน้ำ ในหนองบึง แห่งคำชะโนดนี้ ได้มารวมตัวเป็นเกาะแก่งขึ้นได้ ก็เพราะสิ่งหนึ่ง "


นั่นคือ ต้นชะโนด ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่แปลกประหลาด และมีพบเห็นได้ที่จังหวัดอุดรธานีเท่านั้น โดยเป็นพันธุ์ไม้ที่รวมความเหมือนของต้นตาล กับต้นมะพร้าวเอาไว้ในต้นเดียวกัน จะว่าอาจจะผสมความเป็นต้นหมาก กับต้นปาล์มไปด้วยก็ยังได้ 

โดยเฉพาะระบบราก และความแข็งแรงเหนียวแน่นยืดหยุ่นของต้นชะโนด ที่สามารถขึ้นได้ดีในพื้นที่น้ำจืด และต้านแรงลมได้ดีด้วยนั้น ก็ยิ่งเป็งไนคุณสมบัติที่พิเศษของเจ้าต้นไม้ประหลาดพันธุ์นี้จริงๆเลยครับ


เมื่อต้นชะโนดนี้มาขึ้นบนสวะพืชน้ำเหล่านี้ที่ลอยอยู่ ระบบรากของต้นชะโนดได้หยั่งลงไปใต้น้ำลงไปถึงพื้นดินในหนองบึงแห่งนี้ จนเกิดการยึดเหนี่ยวเอาไว้ทำให้กลุ่มสวะพืชน้ำเหล่านี้ไม่ลอยไปไหนได้ จากนั้นเมื่อเจ้าต้นชะโนดเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็มีดอกใบร่วงหล่นทับถมกันเสียนาน มากมาย ทั้งยังมีพืชชนิดอื่นที่ชอบสภาพแวดล้อมแบบเดียวกันมาเกิดขึ้นบนกอสวะพืชน้ำแห่งนี้ด้วย จึงยิ่งทำให้เกิดการทับถมของซากพืชหลากหลายมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นกิ่งใบของต้นชะโนด และด้วยความสามารถของระบบรากไม้จากพืชพันธุ์อื่นๆที่มาอาศัยรวมกันบนกอสวะนี้จึงทำให้เกิดการยึดเกาะพืชน้ำสวะนี้ให้กลายเป็นเกาะ เกิดชั้นดินขึ้นบ้าง แต่เป็นดินดำที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก แต่เมื่อขุดลงไปลึกก็จะพบกระแสน้ำใต้เกาะซึ่งก็คือกระแสน้ำในหนองบึงนี้ ที่ยังคงไหลผ่านได้ตลอด  จึงเป็นสิ่งบ่งชี้้ให้รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นเกาะที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ไม่ใช่เกาะตามธรรมชาติทั่วไป และเมื่อมีสัตว์ต่างๆที่บินมา ว่ายน้ำมา เพื่อมาดำรงชีพหากิน และใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกาะแห่งนี้มีความคงทนหนาแน่นมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลเพราะมีมูลสัตว์และซากพืชซากสัตว์ทับถมกันอยู่บนเกาะลอยน้ำแห่งนี้


ซึ่งยิ่งนานวันก็ทำให้ระบบรากพืชที่ขึ้นบนเกาะลอยน้ำแห่งนี้ช่วยยึดเหนี่ยวชั้นดินใต้น้ำในหนองบึงแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เกาะแห่งนี้สามารถลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ยืดหยุ่นปรับตัวไปตามระดับน้ำ และไม่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ของเกาะลอยน้ำแห่งนี้เลย ด้วยความสามารถของพืชและสัตว์ แมลง ที่มนุษย์ไม่ต้องเข้าไปซ่อมแซมดูแลรักษาเลยแม้แต่น้อย  โดยในปัจจุบันก็ได้มีการปลูกสร้างศาลบูชาองค์พญานาคสิ่งศักดิสิทธิ์แห่งหนองน้ำแห่งนี้ ซึ่งเชื่อกันว่ามีทางลงเมืองบาดาลอยู่ที่บ่อน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ กลางเกาะแห่งนี้ โดยสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ก็มีความคงทนแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักของผู้คนที่เข้าไป เยี่ยมเยือนชมสถานที่และความสวยงามของธรรมชาติบนเกาะนี้ได้อย่างสบาย  


Laughingซึ่งหากเรานำหลักการนี้มาผสมกับกระชัง หรือแพ โดยทำกระชังลอยน้ำอยู่นอกชายฝั่ง โดยผูกเชือกโยงกับเสาไม้ ที่ปักนอกชายฝั่ง ขึงให้ตึงดีพอสมควร โดยให้กระชังมีความยืดหยุ่นได้ตามกระแสน้ำและคลื่นลมได้พอประมาณ แล้วนำสาหร่ายทะเล หญ้าทะเล ผักบุ้งทะเลผักเบี้ยทะเล ปลูกเอาไว้ในกระชัง ซึ่งต้องทำเป็นบล๊อคๆ เป็นแปลงๆเพื่อให้พืชน้ำได้เจริญเติบโต โดยใช้วิธีการทดลองปลูกพืชน้ำรวมๆกัน แยกเป็นกลุ่มๆ เพื่อดูความเจริญเติบโตของกลุ่มพืชน้ำแต่ละกลุ่มในแต่ละบล๊อคแต่ละแปลงทดลอง


หลังจากนั้นพอระบบรากของพืชน้ำเริ่มมีการหยั่งลงไปสู่ชั้นทราย หรือดินเลน ใต้น้ำ ของพื้นที่ทะเลแห่งนั้น รอดูการเจริญเติบโตของรากพืชว่ามีความยาวและเหนียวแน่น สามารถยึดชั้นดินหรือชั้นทรายได้ขนาดไหนแล้ว


จากนั้นก็ทำการติดตั้งต้นเตยทะเล ต้นลำเจียก  ต้นโกงกาง ต้นลำพู ต้นลำแพน ต้นจาก ต้นแสม ต้นเสม็ด ต้นมะพร้าว ต้นเฟิร์นทะเล ต้นหูกวาง หลายคนคงจะงงว่าหูกวางขึ้นตามชายฝั่งทะเลได้หรือ ลงไปดูแถวบางแสน และพัทยาใต้นะครับ รวมทั้งต้นยูคาลิปตัส ต้นปาล์ม ต้นตาลด้วย  แถมให้อีกหน่อยคือต้นไม้จากชายฝั่งทะเลแคลิฟอร์เนีย นั่นคือ ต้นเรดวู๊ด ซีควรัย่าไม้พันธุ์ยักษ์ตระกูลสน สูงมากและลำต้นใหญ่หนา มีอายุยืนยาวมาก นอกจากนี้ยังมีต้นสนทะเล

คุณต้องทดลองทำเพราะพันธุ์ไม้เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สร้างทดแทนไม่ได้ ที่สำคัญมีแหล่งขาย มากมาย และเพาะพันธุ์ขึ้นได้ใหม่เสมอ เพียงแค่นำมาทดลองปลูกอย่างจริงจังหลายๆกระชัง หลายๆพื้นที่ และหลายวิธีการปลูก ซึ่งผมก็เพียงนำเสนอวิธีการเบื้องต้น ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว  คุณอาจจะทำได้ดีกว่านี้ หรือมีวิธีการที่เยี่ยมกว่านี้ ปลูกได้ดีกว่าผม 


แต่หลักใหญ่ที่ผมต้องการคือ ระบบรากของพืชเหล่านี้ลงไปยึดชั้นดินเลน ชั้นทรายในไปพื้นที่ชายฝั่งทะเลแต่ละรูปแบบกันต่างหาก


เพราะเมื่อเราทำให้ระบบรากของพืชเหล่านี้ยึดดินเลน,ทรายในพื้นที่ทะเลต่างๆกันได้สำเร็จ ก็จะเกิดเป็นเกาะลอยน้ำทดแทนได้แบบเกาะคำชะโนด ณ จังหวัดอุดรธานี และ 


จะทำให้เกิดเกาะลอยน้ำขึ้นนอกชายฝั่งได้อย่างมากมาย จนเมื่อต้นไม้ที่ปลูกในกระชังหรือแพลอยน้ำเหล่านี้เจริญเติบโต แพร่พันธุ์ไปสู่ชายฝั่งต่างๆก็จะทำให้เกิดพื้นแผ่นดินงอกงามออกไปในทะเล เกิดเป็นหาดทรายที่สวยงาม อันกว้างใหญ่ยืดยาวลงไปในทะเลมากขึ้น โดยเราสามารถควบคุมได้ด้วยวิธีทางชีวภาพ ไม่ใช่ใช้วิธีการ



ระเบิดภูเขา หรือขุดทรายจากใต้ดินไปถมทะเล  


ทำได้มั๊ย ทำได้ และเร็วด้วย แต่มันก็ทำลายระบบนิเวศน์ และทรัพยากรทางธรรมชาติที่ไม่สามารถสร้างทดแทนขึ้นได้ ให้หมดไปอย่างรวดเร็วด้วย 


Laughing"บังเอิญผมเป็นมนุษย์ที่เป็นสัตว์ประเสริฐและคิดอะไรที่ได้มากกว่านั้น ผมไม่ต้องการทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อประโยชน์มนุษย์ หรือประชาชนคนไทยเท่านั้น

เพื่อนมนุษย์ประเทศอื่นๆก็สามารถนำไปทำเองได้ และยังเป็นประโยชน์แก่สรรพสัตว์อื่นๆอีก ที่ไม่ใช่หมายความเฉพาะมนุษย์เท่านั้น รวมทั้งพืชและสัตว์ แมลง หนอน หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆก็สามารถอาศัยพึ่งพิงได้ 


แล้วที่สำคัญการสร้างแพไม้ กระชังไม้จาก ขยะไม้ จากไม้ไผ่ หรือเศษผ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะขยะไม้ มีอยู่ทุกวัน เหมือนเขื่อนไม้ของเจ้าตัวบีเวอร์ หรือไม้จากไม้ไผ่ ไม้ต้นอ้อ แบบชนเผ่ามายัน ที่ใช้ต้นอ้อทำเป็นเรือเดินทางไปในแหล่งน้ำต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ พืชเหล่านี้ปลูกทดแทนได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น


ดีกว่าการใช้หิน ทราย มาถมที่ชายฝั่ง ดีกว่าใช้คอนกรีตมาสร้างเป็นกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอย่างที่หน่วยงานภาครัฐมักคิดทำกัน หรือคิดได้แค่นั้นเอง 


อันนี้ก็ไม่รู้   แต่ผมเชื่อว่ามีคนคิดได้มากกว่านั้น และคิดได้ดีกว่านั้นด้วย 

ยังมีคนที่คิดได้มากกว่านั้นอีกมากมาย ที่ไม่ใช่คนในหน่วยงานของภาครัฐ หรือบริษัทเอกชน


อย่าเหยียดหยามกัน อย่าอิจฉากันเลยมาร่วมมือกันดีกว่านะครับ

ทดลองทำ หรือผสมผสานกันทำให้มันเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ทุกสรรพสิ่งบนโลกและจักรวาลนี้กันเถอะครับ 

 




ธรรมรัฐแห่งชาติภาคประชาชน

การป้่องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

ถ้าผมมีเงินหลายแสนล้านบาทนะครับ ผมจะตั้งบริษัทสหกรณ์การเกษตรไร่นาสวนผสมและพืชสัตว์ธรรมชาติอนุรักษ์โลกขึ้นมา   โดยทำหน้าที่แทนกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปซะเลย อาจจะพ่วงไปถึงกระทรวงการท่องเที่ยวซะด้วย    ทำได้ยังไงเหรอครับ 

 ง่ายมาก

  ก่อนอื่นผมก็จะต้องจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรไ่ร่นาสวนผสมและพืชสัตว์ธรรมชาติอนุรักษ์โลกขึ้นมา แล้วให้เกษตรกรทั่วประเทศ และเกษตรกรทั่วโลกมาเป็นสมาชิกของสหกรณ์นี้ซะเลย

จากนั้น ก็ให้ประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เข้ามาเป็นสมาชิกในสหกรณ์นี้ได้ด้วยเช่นกัน อาจจะในราคาหุ้นละ 15-30 บาท

แล้วก็ให้สมาชิกเกษตรกรทั้งหลายที่อยู่ในธุรกิจทำไร่นาสวนผสม และมีพื้นที่อนุกรักษ์สัตว์แมลง หนอนและพืชพันธุ์ธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่ตั้งแต่ 5-50ไร่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงผสมผสานกันระหว่างพืชสัตว์และแมลงในการทำเกษตร รวมทั้งมนุษย์ด้วย 

ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี แต่ให้ใช้พืช สัตว์ แมลง ตัวหนอนและสารชีวภาพในการทำเกษตร เช่น นกนางแอ่นจับแมลงในตอนกลางวัน  กบเขียดปาดกิ้งก่าจับแมลงในตอนกลางคืนและกลางวัน   นกฮูกจับหนู งู็ในตอนกลางคืน

พังพอน นกยูง ห่านช่วยจับงูในตอนกลางวัน    ค้างคาวจับแมลงในตอนกลางคืนและให้ปุ๋ยอย่างดี แถมยังช่วยผสมเกษรดอกไม้ให้แก่พืชด้วย  เป็นต้น

 การแบ่งผลประโยชน์ระหว่างบริษัทกับสมาชิกเกษตรกรในราคาขายปลีก 

 ตามปกติบริษัทนายทุน หรือพ่อค้าคนกลางจะมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาขายส่ง แล้วไปขายในราคาขายปลีกที่ได้กำไรแพงมาก  ทำให้เกษตรกรถูกกดราคาสินค้า 

 แต่เมื่อเกษตรกรที่เป็นสมาิชิกกับสหกรณ์จะได้กำไรจากราคาขายปลีกไปด้วยรายละ 40%  เท่ากับว่าเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์มีหน้าที่เป็นฝ่ายผลิตสินค้าให้กับทางบริษัทและสหกรณ์เท่านั้น 

ส่วนงานแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และทำการตลาดเป็นหน้าที่ของฝ่ายอื่นของสหกรณ์และทางบริษัทจะดำเนินการ โดยจะเปิดรับสมัครพนักงานจากลูกหลานญาติมิตร และคนในครอบครัวของสมาชิกสหกรณ์เป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานต่อไป  และยังรับสมัครจากประชาชนทั่วไปที่สนใจ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในราคาค่าแรงเท่าเทียมกัน   

โดยพนักงานเหล่านี้ก็สามารถที่จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์ได้เช่นกัน

เท่ากับว่าเมื่อสินค้าที่เป็นวัตถุดิบและสินค้าที่แปรรูปได้ถูกออกจำหน่ายแล้ว ผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของประชาชนทั่วไป และสมาิชิกของสหกรณ์อย่างเท่าเทียมกัน 

โดยเมื่อมียอดจำหน่ายมาก ได้กำไรมากเท่าไร เงินปันผลให้สมาชิกก็จะมากตามเป็นเงาตามตัวไปด้วยเช่นกัน

เราจะได้เครือข่ายผู้ผลิตจากเกษตรกรแต่ละภูมิภาคทั่วโลก แล้วร่วมขายเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกัน ที่มีสัดส่วนของสินค้าจากแต่ละภูมิภาคผสมกลมกลืนกันไป ทำให้เมื่อสินค้าแต่ละตัวถูกจำหน่ายออกไป ก็จะสร้างมูลค่าเิพิ่มใ้ห้กระจายแก่สมาชิกทั่วโลกในเวลาพร้อมๆกัน แต่จะแตกต่างในส่วนต่างของค่าเงินตราต่างประเทศ ซึ่งท้ายสุดผลพลอยได้นี้ก็ตกเป็นผลประโยชน์แก่สมาชิกและบริษัทด้วยกัน อย่างมีความสุขที่ยั่งยืน  ซึ่งจะมีอำนาจต่อรองที่สูงมาก และเป็นอำนาจต่อรองโดยพลังเกษตรกรและผู้บริโภคจากทุกประเทศทั่วโลกร่วมกัน โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานของรัฐบาล และไม่ตกอยู่ในอำนาจของกลุ่มทุนข้ามชาติที่ทรงอิทธิพลอื่นๆ

เมื่อมีพื้นที่ทำการเกษตรแบบไ่ร่นาสวนผสมและพืชสัตว์ธรรมชาติอนุรักษ์โลกเพิ่มขึ้นกระจายไปทั่วโลก สิ่งแวดล้อมของโลกก็จะดี รวมทั้งสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกก็จะดีตามไปด้วย   

เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่การเกษตรของสมาชิกสหกรณ์ที่จัดขึ้นโดยทางบริษัทและสหกรณ์ ได้ผลประโยชน์จากประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่องทุกๆวัน เพราะมีพื้นที่ให้ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  

 เกิดแหล่งน้ำในพื้นที่การเกษตรของสมาชิก โดยทางบริษัทและสหกรณ์จะดำเนินการด้านคูคลองและ่บ่อน้ำขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วม  ซึ่งดินและทรายที่ขุดก็สามารถนำมาสร้างประโยชน์และรายได้แก่สมาชิกได้อย่างยั่งยืนโดยไม่ต้องรอพึ่งพิงน้ำจากธรรมชาติและการชลประทานหรือความช่วยเหลือใดจากทางภาครัฐแต่อย่างใด  

ทางบริษัทและสหกรณ์จะบริหารผลประโยชน์ในพื้นที่รอบแหล่งน้ำที่ขุดขึ้นมาเอง รวมทั้งผลประโยชน์ในน้ำของแหล่งน้ำที่ขุดด้วย 

เช่น การปลูกพืชที่กินน้ำจุ อย่างยูคาลิปตัส เพื่อกำจัดน้ำและเพื่ออื่นๆ 

ทำการเกษตรและประมงทั้งในน้ำและรอบๆพื้นที่แหล่งน้ำที่ขุดขึ้นมา 

ผลิตกระแสไฟฟ้า จากแรงดันน้ำที่ไหลลงมาในแหล่งน้ำ โดยติดตั้งอุปกรณ์เหมือนเช่นคลองลัดโพธิ์และขายน้ำที่มีมากในแหล่งน้ำ 

ทางบริษัทจะจัดหาพื้นที่นา และพื้นที่ไร่สวนอื่นๆ เพื่อขุดทำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่อยู่นอกพื้นที่ของสมาชิกสหกรณ์ เพื่อหาผลประโยชน์จากดินและทราย ตลอดจนผลประโยชน์จากน้ำ และพื้นที่รอบๆแหล่งน้ำ โดยใช้วิธีการเช่าซื้อกับเจ้าของที่ดิน โดยแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน 70/30  (บริษัทและสหกรณ์ 70) ซึ่งหากทางเจ้าของที่ดินดังกล่าวจะสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ก็จะสามารถได้รับผลประโยชน์อื่นๆตามไปด้วย  

ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม 

นอกจากนี้ทางบริษัทและสหกรณ์ยังจะหาพื้นที่ๆเป็นบ่อดินและบ่อทราย ที่ได้ขุดเอาไว้แล้วหรือกำลังขุดอยู่ จัดเป็นพื้นที่รองรับน้ำท่วมที่ไหลมาจากแม่น้ำคูคลองต่างๆ โดยฝังท่อใต้ดินนำน้ำจากคูคลองหนองบึงและแม่น้ำมาลงสู่บ่อดินบ่อทรายเหล่านี้ แล้วติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากแรงดันน้ำ  

รวมทั้งขอเช่าพื้นที่โดยรอบของบ่อดินและบ่อทราย รวมทั้งพื้นที่ในบ่อดินและบ่อทรายเพื่อบริหารผลประโยชน์ต่างๆต่อไป 

ทางบริษัทจะเสนอให้ประชาชนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ที่ืทางการได้ประกาศเตือน เพื่อให้เลือกใช้บริการป้องกันภัยของทางบริษัทและสหกรณ์ โดยเพียงจ่ายเงินค่าบริการครอบครัวละ 2,500ต่อปี เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทำกินของประชาชน   โดยทางบริษัทจะนำ้น้ำส่วนเกินจากแหล่งน้ำมาลงพื้นที่บ่อดินและบ่อทรายของทางบริษัทในแต่ละพื้นที่ัทั่วประเทศ    ซึ่งจะทำให้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งกลายเป็นอดีตไป 

 แต่หากประชาชนครอบครัวใดไม่จ่ายเงินค่าบริการ ก็อาจมีความเสี่ยงที่ต้องเกิดปัญหาน้ำท่วม  แต่อาจจะได้รับผลประโยชน์แฝงจากพื้นที่แหล่งน้ำของบริษัทในพื้นที่อื่นๆที่อยู่ใกล้บ้านเรือน ซึ่งทางบริษัทก็จะไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด

เนื่องจากธุรกิจท่าทราย และพื้นที่ถมที่สร้างสิ่งปลูกสร้างถือว่าเป็นตัวชี้วัดพื้นที่จะเกิดแหล่งน้ำรองรับน้ำท่วม  และขณะเดียวกันพื้นที่ๆกลายเป็นพื้นที่ถมสร้างสิ่งปลูกสร้างก็คือพื้นที่ๆแสดงถึงโอกาสความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาน้ำท่วมได้ในอนาคตเป็นอย่างดี   เพราะมีตัวเลข และข้อมูลแผนที่เดิมเป็นตัวบอกได้อย่างชัดเจน 

ทางบริษัทและสหกรณ์ก็จะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสร้างแหล่งน้ำและพื้นที่บริหารผลประโยชน์จากปริมาณน้ำที่มีมากเกินไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากภาครัฐแต่อย่างใด

และเมื่อทางบริษัทจัดตั้งเว็บไซต์ที่รับเรื่องร้องทุกข์และรับแจ้งความจากประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งให้นำคลิปวิดีโอจากประชาชนที่ต้องการนำเสนอข่าวสารหรือปัญหา รวมทั้งร่วมตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดทางกฎหมายและศีลธรรมมานำเสนอผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทแล้ว   โดยเมื่อประชาชนและสมาชิกสหกรณ์สมัครเข้าเป็นสมาชิกในเว็บไซต์นี้ และเสียค่าถือหุ้นๆละ10 บาท ก็จะได้รับผลตอบแทนจากค่าคลิกและค่าโฆษณาในเว็บไซต์ไปด้วย  

ก็จะยิ่งทำให้มีประชาชนที่สนใจเข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์นี้ เพื่อฟ้องร้องแจ้งความและดำเนินการเอาความผิดกับภาครัฐและผู้กระทำผิดทั้งหลาย เหมือนเข้าไปใช้บริการในface book 

ทางบริษัทจะจัดตั้งบริษัทนักสืบ บริษัทบอร์ดี้การ์ด บริษัทรักษาความปลอดภัย สำนักงานทนายความ และบริษัทสื่อสารมวลชน เพื่อร่วมกันติดตาม ควบคุม ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับภาครัฐและผู้กระทำความผิด ร่วมกับทางเว็บไซต์ที่จัดตั้งขึ้นมานี้อย่างสอดคล้องลงตัว 

สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนเป็นกระทรวงและหน่วยงานของภาครัฐ โดยไม่ต้องรอขอความช่วยเหลือใดๆจากทางภาครัฐบาล สภานิติบัญญัติและศาลตุลาการเลยแม้แต่น้อย 

จะเกิดบริษัทที่ทำงานทดแทนการทำงานของหน่วยงานในกระทรวงกรมกองต่างๆของภาครัฐ เพื่อกดดันและแข่งขันการทำงานของภาครัฐและนักการเมือง 

โดยภาคประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์


 



                                         


วิธีป้องกันแผ่นดินไหวอย่างง่ายเลยนะครับท่านผู้ชม

แต่ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักก่อนว่าคลื่นแผ่นดินไหวเกิดจากอะไร  ก็ต้องขอขอบคุณจากข้อมูลจากทางเว็บไซต์ วิกิพีเดีย ด้วยนะครับ

คลื่นแผ่นดินไหว หรือคลื่นไหวสะเทือน (อังกฤษseismic waves) ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

  1. คลื่นในตัวกลาง เป็นคลื่นที่มีลักษณะแผ่กระจายเป็นวงรอบๆจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
    • คลื่นปฐมภูมิ (คลื่น P) คลื่นตามยาว อนุภาคของคลื่นชนิดนี้เคลื่อนที่ในแนวทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น สามารถผ่านได้ในตัวกลางทุกสถานะ
    • คลื่นทุติยภูมิ (คลื่น S) คลื่นตามขวาง อนุภาคของคลื่นมีทิศตั้งฉากกับทิศคลื่นเคลื่อนที่ ผ่านได้ในตัวกลางสถานะของแข็ง
  2. คลื่นพื้นผิว เป็นคลื่นที่แผ่จากจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว มี 2 ชนิด
    • คลื่นเลิฟ (Wave of Love : Love wave) เป็นคลื่นที่อนุภาคสั่นในแนวราบ มีทิศทางตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคลื่น
    • คลื่นเรลีย์ (Wave of Rayleigh : Rayleigh wave) อนุภาคในคลื่นนี้สั่นเป็นรูปรี ในทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น เป็นสาเหตุทำให้พื้นโลกสั่นขึ้นลง


แผ่นดินไหวตามธรรมชาติ[แก้]

แผ่นดินไหวจากธรรมชาติเป็นธรณีพิบัติภัยชนิดหนึ่ง ส่วนมากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อระบายความเครียด ที่สะสมไว้ภายในโลกออกมาอย่างฉับพลันเพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ โดยปกติเกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ภายในชั้นเปลือกโลกที่อยู่ด้านนอกสุดของโครงสร้างของโลก มีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ อยู่เสมอ (ดู การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก) แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อความเค้นอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงมีมากเกินไป ภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยในบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลก ที่ที่แบ่งชั้นเปลือกโลกออกเป็นธรณีภาค (lithosphere) เรียกแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกนี้ว่า แผ่นดินไหวระหว่างแผ่น (interplate earthquake) ซึ่งเกิดได้บ่อยและรุนแรงกว่า แผ่นดินไหวภายในแผ่น (intraplate earthquake)

แผ่นดินไหวจากการกระทำของมนุษย์[แก้]

มีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การระเบิด การทำเหมือง สร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนใกล้รอยเลื่อน การทำงานของเครื่องจักรกล การจราจร รวมถึงการเก็บขยะนิวเคลียร์ไว้ใต้ดิน เป็นต้น

  • การสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอาจพบปัญหาการเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากน้ำหนักของน้ำในเขื่อนกระตุ้นให้เกิดการปลดปล่อยพลังงาน ทำให้สภาวะความเครียดของแรงในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งทำให้แรงดันของน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดพลังงานต้านทานที่สะสมตัวในชั้นหิน เรียกแผ่นดินไหวลักษณะนี้ว่า แผ่นดินไหวท้องถิ่น ส่วนมากจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึก 5-10 กิโลเมตร ขนาดและความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวจะลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะปกติ รายงานการเกิดแผ่นดินไหวในลักษณะเช่นนี้เคยมีที่ เขื่อนฮูเวอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2488 แต่มีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย เขื่อนการิบา ประเทศซิมบับเว เมื่อ พ.ศ. 2502 เขื่อนครีมัสต้า ประเทศกรีซ เมื่อ พ.ศ. 2506 และครั้งที่มีความรุนแรงครั้งหนึ่งเกิดจากเขื่อนคอยน่า ในประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. 2508 ซึ่งมีขนาดถึง 6.5 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 180 คน[1]
  • การทำเหมืองในระดับลึก ซึ่งในการทำเหมืองจะมีการระเบิดหิน ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นได้
  • การสูบน้ำใต้ดิน การสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้มากเกินไป รวมถึงการสูบน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ชั้นหินที่รองรับเกิดการเคลื่อนตัวได้
  • การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนจากการทดลองระเบิด ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดผลกระทบต่อชั้นหินที่อยู่ใต้เปลือกโลกได้

  • ลักษณะทางกายภาพของเปลือกโลกเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากสภาพปกติก่อนการเกิดแผ่นดินไหว เช่น
    1. แรงเครียดในเปลือกโลกเพิ่มขึ้น โดยใต้ผิวโลกจะมีความร้อนสูงกว่าบนผิวโลก จึงทำให้เปลือกโลกเกิดการขยายตัว หดตัวไม่สม่ำเสมอ โดยที่เปลือกโลกส่วนล่างจะมีการขยายตัวมากกว่า
    2. การเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าสนามแม่เหล็กและแรงโน้มถ่วงของโลก
    3. การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก
    4. น้ำใต้ดินมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวและการขยายตัวของเปลือกโลกใต้ชั้นหินรองรับน้ำ
    5. ปริมาณแก๊สเรดอนเพิ่มขึ้น
  • การสังเกตพฤติกรรมของสัตว์สัตว์หลายชนิดมีการรับรู้และมักแสดงท่าทางออกมาก่อนเกิดแผ่นดินไหว อาจจะรู้ล่วงหน้าเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้ เช่น
    1. สัตว์เลี้ยงสัตว์บ้านทั่วไปตื่นตกใจ เช่น สุนัข เป็ด ไก่ หมู หมี
    2. แมลงสาบจำนวนมากวิ่งเพ่นพ่าน
    3. หนู งู วิ่งออกมาจากที่อาศัย ถึงแม้ในบางครั้งจะเป็นช่วงฤดูจำศีลของพวกมัน
    4. ปลากระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำ
  • บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวถ้าบริเวณใดเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โอกาสเกิดแผ่นดินไหวก็มีตามมาอีก และถ้าสถานที่นั้นเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรง ก็มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นอีกเช่นกัน นอกจากนี้บริเวณที่มีภูเขาไฟระเบิดมักจะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นก่อนหรือหลังภูเขาไฟระเบิดได้

ที่นี้เราก็มาดูวิธีการป้องกันแผ่นดินไหวอย่่างง่ายๆเลยนะครับ 

คลื่นในตัวกลาง (Body wave) เดินทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ผ่านเข้าไปในเนื้อโลกในทุกทิศทาง ในลักษณะเช่นเดียวกับคลื่นเสียงซึ่งเดินทางผ่านอากาศในทุกทิศทาง  คลื่นในตัวกลางมี 2 ชนิด ได้แก่ คลื่นปฐมภูมิ (P wave)  และ คลื่นทุติยภูมิ (S wave) ดังภาพที่ 2
  •  
    • คลื่นปฐมภูมิ (P wave) เป็นคลื่นตามยาวที่เกิดจากความไหวสะเทือนในตัวกลาง โดยอนุภาคของตัวกลางนั้นเกิดการเคลื่อนไหวแบบอัดขยายในแนวเดียวกับที่คลื่นส่งผ่านไป คลื่นนี้สามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่เป็นของแข็ง ของเหลว และแก๊ส เป็นคลื่นที่สถานีวัดแรงสั่นสะเทือนสามารถรับได้ก่อนชนิดอื่น โดยมีความเร็วประมาณ 6 – 7 กิโลเมตร/วินาที  
    • คลื่นทุติยภูมิ (S wave) เป็นคลื่นตามขวางที่เกิดจากความไหวสะเทือนในตัวกลางโดยอนุภาคของตัวกลางเคลื่อนไหวตั้งฉากกับทิศทางที่คลื่นผ่าน มีทั้งแนวตั้งและแนวนอน คลื่นชนิดนี้ผ่านได้เฉพาะตัวกลางที่เป็นของแข็งเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางผ่านของเหลว  คลื่นทุติยภูมิมีความเร็วประมาณ  3 – 4 กิโลเมตร/วินาที  

 ที่นี้ หากเราก็มารู้วิธีการป้องกันคลื่นแผ่นดินไหวในแบบต่างๆกันเลยนะครับ


  1. ต้องปลูกพืชที่มีระบบรากลึกและรากยาวถึงระดับชั้นน้ำบาดาลในบริเวณที่มีรอยเลื่อน หรือเป็นพื้นที่ดินตะกอน เช่น หญ้าแฝก ไทร 
  2. ห้ามปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวในเขตภูเขา ที่ราบภูเขา พื้นที่รอยเลื่อน พื้นที่ดินตะกอนหรือในพื้นที่ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยภูเขา  เพราะเมื่อเปิดพื้นที่ป่าเพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยวแล้วจะทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ขาดระบบไม้ใหญ่ที่คอยดูดซับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศและไม่มีระบบรากพืชในชั้นน้ำบาดาลที่คอยต้านแรงสั่นสะเทือน หรือเป็นตัวช่วยยึดดินในชั้นดินดาลจนถึงพื้นผิวที่เป็นดินอ่อน 
  3. ต้องปลูกไม้ท่ี่ระบบรากลึกห้อมล้อมเสาอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างแบบ      เดียวกับการปลูกต้นข่อยล้อมรอบเสาทางรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้ระบบรากห่อหุ้มเสาตอหม้อในชั้นใต้ดินเอาไว้
  4. ปลูกพืชเลื้อยที่สามารถเลื้อยไปตามผนังกำแพง เช่นต้นตีนตะขาบ เพื่อลดแรงปะทะจากลมและคลื่นสั่นสะเทือนที่มากระทบกำแพง เพื่อให้กำแพงได้เป็นแนวซับแรงคลื่นในชั้นแรก ก่อนถึงตัวอาคารที่พักที่อาศัย หรือที่ทำงาน
  5. ทำบ่อลึกประมาณ5-10 เมตรล้อมรอบสิ่งปลูกสร้าง  โดยให้ห่างอย่างน้อย10 เมตรแล้วเทของเหลว จำพวกน้ำมันพืช เจล แป้งเปียก แป้งมันสำปะหลังผสมกับโคลน เพื่อป้องกันแรงคลื่นแผ่นดินไหวไม่ให้เคลื่อนที่มาถึงยังสิ่งปลูกสร้างต่างๆได้





Forum Names Topics Last Post
General Zone
General Board
Share your idea with our community.
8 28/3/2555 18:00:00
by Administrator
in รายการที่ส่งเสริมและฝึกทักษะการแสดงออกของประชาชน
จัดอันดับนักเรียนดีและเก่ง
ค้นหานักเรียนที่มีพฤติกรรมดี และมีความสามารถ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือได้ช่วยเหลือสังคม
1 2/2/2555 10:22:00
by Administrator
in นักเรียนเรียนดีด้านวิทยาศาสตร์
News Zone
นักคิดสร้างสรรค์
คนที่คิดนวัตกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาของสังคมและโลก
2 2/2/2555 10:45:00
by Administrator
in นักสร้างเขื่อนจากขยะไม้
ปฏิรูป
ปรับปรุงแก้ไขการบริหารและการปกครองอย่างยั่งยืน
4 2/4/2555 10:04:00
by Administrator
in การปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารงานในภาครัฐโดยมติสังคม
นักศึกษาชวนฝัน
ค้นหานักศึกษาที่มีพฤติกรรมดี และมีความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งนักศึกษาที่่มีความน่ารักในแบบต่างๆ
0

Google

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 198,558 Today: 111 PageView/Month: 1,130

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...